วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

ผลพวงรัฐบาลรักษาการ










          ผลกระทบหนึ่งของการเป็นรัฐบาลรักษาการ! วันก่อน นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ชะลอการเจรจาขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) ให้กับรัฐบาลจีน ออกไปก่อน

          โดยเป็นล็อตที่นายกรัฐมนตรีจีนเดินทางมาเยือนไทยเมื่อปลายปีที่ผ่านมา และได้รับปากนายกรัฐมนตรีไทยจะซื้อข้าวจากไทย ปริมาณ 1 ล้านตัน เป็นเวลา 5 ปี

           และล่าสุด กรมการค้าต่างประเทศ ได้เจรจาการซื้อขายสำหรับปี 57 จนได้ข้อสรุปในสาระสำคัญแล้ว เหลือเพียงการกำหนดราคาขายเท่านั้น ก็จะทำสัญญา และเริ่มกระบวนการซื้อขาย และส่งมอบกันได้แล้ว

           กระทรวงพาณิชย์ บอกสาเหตุที่ต้องชะลอการซื้อขายออกไป เป็นเพราะได้พิจารณาในรายละเอียดของหนังสือตอบกลับจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ภายหลังกระทรวงพาณิชย์ได้ทำหนังสือสอบถามถึงขอบเขตของการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล เมื่อเป็นรัฐบาลรักษาการว่าจะยังดำเนินการได้หรือไม่ อย่างไร

          แม้ กกต.จะตอบกลับมาแล้วว่า ยังสามารถดำเนินการได้ แต่ไม่ควรจะเป็นภาระผูกพันไปถึงรัฐบาลชุดใหม่ ซึ่งหมายความว่า การขายข้าวล็อตใหญ่ๆ ที่มีระยะเวลาการส่งมอบนาน จนถึงเมื่อมีรัฐบาลใหม่ อาจจะทำไม่ได้ เพราะจะกลายเป็นภาระผูกพันของรัฐบาลใหม่ทันที

          กระทรวงพาณิชย์ จำเป็นต้องหยุดการเจรจาซื้อขายดังกล่าว เพราะเกรงจะเป็นการปฏิบัติงานเกินหน้าที่ ผลักภาระให้รัฐบาลชุดใหม่ และเร่งชี้แจงให้จีนเข้าใจถึงความจำเป็น ซึ่งน่าจะเริ่มต้นการเจรจาซื้อขายได้ใหม่ภายหลังจากไทยมีรัฐบาลชุดใหม่แล้วในเร็วๆ นี้

          และด้วยเหตุผลเดียวกัน มีความเป็นไปได้ ที่อาจชะลอการเจรจาซื้อขายข้าวจีทูจีให้กับจีนอีกล็อตหนึ่งปริมาณ 1.2 ล้านตัน ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้ทำสัญญาซื้อขายแล้วกับรัฐวิสาหกิจจีนจากเมืองฮาร์บิน มณฑลเฮย์หลงเจียง

          ที่แน่ๆ แม้ในปีนี้ จะไม่ได้เงินจากการขายข้าวให้จีนทั้ง 2 ล็อตใหญ่ๆ แต่กระทรวงฯยังยืนยันนอนยันว่า จะไม่กระทบสภาพคล่องในโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปี 56/57 (รอบแรก) แน่นอน!!

          เพราะกระทรวงฯจะได้เงินจากการทยอยส่งมอบข้าวสัญญาเดิมที่มีอยู่ และส่งคืนกระทรวงการคลังได้ตามแผน  รวมถึงยังเร่งขายข้าวล็อตเล็กๆ ที่ไม่เป็นภาระผูกพันไปถึงรัฐบาลหน้า ทั้งการเปิดประมูลทั่วไป การเปิดประมูลในตลาดซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย (เอเฟต) หรือการขายให้ภาคเอกชนที่ติดต่อขอซื้อ ขณะเดียวกัน รัฐบาลได้เร่งหาเงินจากแหล่งอื่นมาใช้ในโครงการแล้ว

          มั่นใจว่า ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จะจ่ายเงินค่าข้าวให้ชาวนาได้ทั้งหมดภายในเดือนม.ค.นี้ จึงไม่ต้องกังวล แม้จะได้ช้ากว่าเดิม 3-4 เดือน แต่ได้ชัวร์ ไม่ถูกเบี้ยวแน่นอน

          แต่อยากรู้จริงๆ ว่า การชะลอซื้อขายออกไปแบบนี้ จีนยังจะยืนยันซื้อจากไทยอีกหรือไม่ และถ้ายังซื้อต่อ ราคาที่ขายได้จะเหลือเท่าไร เพราะข้าวในสต๊อกเสื่อมคุณภาพลงทุกที

          เมื่อถึงเวลานั้น...ไม่อยากคิดเลยว่า จะขาดทุนมหาศาลขนาดไหน?



                                                                           ฟันนี่เอส


                                                16
ม.ค. 57

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น