วันจันทร์ที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

เวรกรรมเกษตรกร!



            
               เฮ้อ! เหนื่อยจริงๆ เกิดเป็นเกษตรกรไทย เป็นกลุ่มที่มีมากที่สุดในประเทศไทย แต่ก็ยากจนที่สุดเหมือนกัน ทั้งที่ไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ผลิตอาหารเลี้ยงคนทั่วโลก สร้างรายได้เข้าประเทศปีละมหาศาล  
  
            แต่ชีวิตความเป็นอยู่เกษตรกรกลับยังยากจนแสนเข็ญ ไม่ร่ำรวยเหมือนคนอื่นเสียที!!      
  
               เห็นได้จากการสำรวจสถานภาพเกษตรกรไทย ที่สำรวจจากเกษตรกร 1,182 ตัวอย่างทั่วประเทศ วันที่ 19-22 พ.ค.ที่ผ่านมา โดยศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า กลุ่มตัวอย่าง 87.6% ระบุเป็นหนี้ทั้งในระบบและนอกระบบมากกว่า 100,000 บาทขึ้นไป และมีรายได้เพียง 10,000-20,000 บาท โดยหนี้เหล่านี้เกิดจากการใช้จ่าย ต้นทุนการเกษตร และการซื้อทรัพย์สิน
  
               ที่น่าตกใจคือ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ระบุไม่สามารถใช้หนี้ได้ ทั้งในระบบและนอกระบบ    
  
               แม้ปีนี้ ราคาผลผลิตทางการเกษตรจะสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่เกษตรกรแทบไม่ไดรับอานิสงส์เลย เพราะต้น ทุนการผลิตที่สูงสุดโต่ง ทั้งจากค่าปุ๋ย ค่ายา ค่าน้ำมัน ค่าแรง และอื่นๆ อีกจิปาถะ จนขายสินค้าได้ไม่คุ้มทุน  
  




               ความยากลำบากของเกษตรกรไทย ส่วนหนึ่งต้องโทษทุกรัฐบาล ที่ไม่ได้ให้ความช่วยเหลืออย่างจริงจัง และจริงใจ แม้มีโครงการช่วยเหลือมากมาย อย่างรับจำนำสินค้าเกษตรนานาชนิด แต่เงินก็รั่วไหลเข้ากระเป๋าใครต่อใครเป็นว่าเล่น จนแทบไม่เหลือถึงมือเกษตรกรตัวจริงเลย
  
               ขณะเดียวกัน หน่วยงานรัฐ ที่เกี่ยวข้อง กลับไม่กระตือรือร้นในการทำงาน รู้ทุกสิ่งอย่างว่าต้องพัฒนาผลผลิต ปรับปรุงพันธุ์พืช-พันธ์ุสัตว์ วิธีการเพาะปลูกอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ ลดต้นทุนการผลิตอย่างไร หรือเพิ่มผลผลิตต่อไร่อย่างไร แต่กลับไม่ทำสักที ได้แต่ท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทองอยู่อย่างนั้น
  
               ที่สำคัญ ไม่มีระบบชลประทานที่มีประสิทธิาพ กักเก็บน้ำไว้ใช้ยามจำเป็น แต่กลับเป็นว่า เมื่อถึงฤดูน้ำหลากกลายเป็นน้ำท่วม แต่พอฝนไม่ตกก็แห้งแล้ง ผลผลิตเสียหายทั้งขึ้นทั้งล่อง ซ้ำเติมเกษตรกรให้ย่ำแย่หนักขึ้นไปอีก
  
               ทั้งหมดทั้งมวลทำให้เกษรตกรที่ขาดความรู้ ขาดเงิน ยังวนเวียนอยู่กับวิธีการเพาะปลูกแบบเดิมๆ  อาศัยเทวดาฟ้าฝน และธรรมชาติ ไม่มีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่เข้าช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต เพิ่มผลผลิตต่อไร่ เพื่อให้มีผลผลิตขายได้มากขึ้น และมีรายได้มากขึ้น
  




             ทั้งที่ไทยวางเป้าหมายประเทศเป็นผู้ผลิต และส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของโลก แต่ไม่มีการพัฒนาด้านการเกษตรโดยสิ้นเชิง ถือเป็นความล้มเหลวเชิงนโยบายของแทบจะทุกรัฐบาลก็ว่าได้
  
             ต่างจากประเทศอื่น ไม่ต้องอื่นไกลแค่เวียดนาม ที่รัฐบาลพัฒนาด้านการเกษตรทุกอย่าง จนผลผลิตของเวียดนาม โดยเฉพาะข้าวก้าวขึ้นมาเป็นคู่แข่งข้าวไทยได้อย่างไม่อายใคร
  
           หากยังเป็นเช่นนี้ ไม่ต้องเป็นหมอดูก็ทำนายได้ว่า อนาคตสินค้าเกษตร และเกษตรกรไทยจะเป็นอย่างไร!!
  
             “ฟันนี่เอส” ขอให้พรรคการเมืองที่กำลังหาเสียงอยู่ตอนนี้ สำเหนียกถึงความสำคัญ และความยากลำบากของคนกลุ่มนี้ อยากให้มีนโยบายที่สร้างความมั่นคงด้านอาชีพ และรายได้ให้พวกเขาบ้าง
  
            ไม่ใช่ดีแต่พูดปาวๆ แต่พอถึงคราวเป็นรัฐบาลกลับนิ่งเฉย เมื่อเกิดปัญหา ก็ปล่อยให้เกษตรกรลุกฮือประท้วงโดยไม่เหลียวแล...เหมือนที่ผ่านมา



                                                                                                     ฟันนี่เอส


                                                                                                      2มิย54

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น