วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2554

ทุกข์ของพ่อแม่

                                                        



            ถ้าถามคนที่เป็นพ่อแม่ ใน 1 ปีไม่ชอบเดือนไหนมากที่สุด คำตอบคงจะเป็นเดือนพ.ค. เพราะเป็นช่วงเปิดเทอม ที่จะต้องควักกระเป๋าจ่ายค่าเทอม ค่าชุดนักเรียน กระเป๋า ถุงเท้า รองเท้า อุปกรณ์การเรียน รวมไปถึงค่าแป๊ะเจี๊ย ค่าโสหุ้ยสารพัด

           ทำให้ในช่วงเปิดเทอมแต่ละครั้ง ธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการศึกษา ทั้งสถานศึกษา ร้านขายชุดนักเรียน ขายอุปกรณ์การเรียน เฟื่องฟูอย่างเห็นได้ชัด




          โดยเปิดเทอมปีนี้ ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย คาดการณ์จากผลสำรวจกลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,183 คน ระหว่างวันที่ 3-7 พ.ค. 54 ว่า จะมีเงินสะพัดถึง 46,900 ล้านบาท เพื่มขึ้นจากปีก่อน 5.4% โดยมีค่าใช้จ่ายเฉลี่ยรวม 6,939 บาทต่อคน เพิ่มขึ้น 42.38%

  ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นนี้ ไม่ใช่เพราะผู้ปกครองซื้อสินค้ามากชิ้นขึ้น แต่ซื้อได้น้อยชิ้นลงด้วยซ้ำ เพราะราคาสินค้าปรับสูงขึ้น ทั้งชุดนักเรียน ถุงเท้า รองเท้า หนังสือ กระเป๋า เครื่องเขียน  (แต่กระทรวงพาณิชย์ก็ยังยืนยันเป็นแผ่นเสียงตกร่องว่า ราคาชุดนักเรียนไม่ได้ปรับขึ้นสักบาท)



  ยิ่งเป็นอุปกรณ์การเรียน กระเป๋า หนังสือ และชุดนักเรียนของโรงเรียนเอกชนด้วยแล้ว ยิ่งแพงสุดๆ บางโรงเรียนแค่นักเรียนอนุบาล มีเสื้อ กางแกง เสื้อกั๊ก ราคาสูงถึงชุดละ 1,300 บาท ส่วนชุดนักเรียนชั้นประถมก็ไม่ยิ่งหย่อนกว่ากัน

  อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค เข้ามาดูแลตรงนี้บ้าง ไม่อยากให้โรงเรียนเอาเปรียบผู้ปกครองมากเกินเหตุ

  นอกจากนี้ ผู้ปกครองยังต้องมีค่าใช้จ่ายนอกเหนือจากค่าเทอมอีกมาก โดยโรงเรียนเอกชน มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากค่าเทอม 5,930 บาท ส่วนโรงเรียนรัฐบาล 7,080 บาท ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มเติมนี้ส่วนใหญ่จะเป็นค่าสนับสนุนและค่าบำรุงโรงเรียน รวมถึงแป๊ะเจี๊ยอีกต่างหาก

  ตัวเลขค่าใช้จ่ายที่มากมายขนาดนี้ ถ้าเป็นคนพอมีอันจะกิน คงไม่รู้สึกอะไร และพร้อมจ่ายมากขึ้น เพื่อให้ลูกหลานได้เรียนโรงเรียนดีๆ มีระดับ



  แต่คนชั้นกลางถึงล่าง คงต้องนอนก่ายหน้าผากคิดหนักว่า จะหาเงินที่ไหนมาใช้จ่าย โดยเฉพาะในยุคที่ข้าวของแทบจะทุกอย่างแพงมหาโหดแบบนี้ ทางออกของคนจน คงหนีไม่พ้นการกู้เงิน ซึ่งจะยิ่งทำให้หนี้สินพอกพูนขึ้นอีกเป็นกอง และถ้าพ่อแม่หาเงินไม่ได้ ก็พลอยไม่ให้ลูกได้เรียนหนังสือไปด้วย

 “ฟันนี่เอส” อยากให้รัฐบาลชุดใหม่ ที่จะเข้ามาบริหารประเทศให้ความสำคัญกับการศึกษาด้วย ไม่ว่าจะเป็นการเรียนฟรี การจัดหาชุดนักเรียนให้ฟรีสำหรับเด็กยากจน มีหนังสือให้ยืมเรียน มีทุนการศึกษาเพิ่มมากขึ้นในทุกระดับชั้น และถ้าเป็นไปได้ ควรดูแลค่าเทอมของโรงเรียนเอกชน ไม่ให้แพงเกินไป และคุมการรีดเงินใต้โต๊ะให้ได้

 แต่เหนือสิ่งอื่นใด ต้องมีนโยบายเศรษฐกิจ ที่เน้นสร้างความเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และการเติบโตด้านรายได้ของประชาชน ไม่ใช่จ้องแต่สร้างรายได้ของตัวเองเท่านั้น


                                                ฟันนี่เอส


                                                                    12พค54

3 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ10 พฤษภาคม 2554 เวลา 08:07

    ตรงประเด็นเป๊ะเลย

    ตอบลบ
    คำตอบ
    1. ไม่ระบุชื่อ18 เมษายน 2555 เวลา 22:13

      การเรียนเราสามาถรเลือกด้ายว่าเราจะเรียนอย่างไรเราโตไป
      ก้อได้เงินมาให้พ่อเเม่ใช้ไง นี่ความคิดของน้องเเพร ม.1

      ลบ
    2. ไม่ระบุชื่อ18 เมษายน 2555 เวลา 22:15

      ถูกต้องคร่า น้องเเพร ม.1

      ลบ