วันอังคารที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557

มาตรฐานใหม่ข้าวหอมมะลิไทย











          ตั้งแต่เดือนก.พ.57 เป็นต้นมา ผู้ส่งออกข้าวหอมมะลิไทย ต้องดำเนินการตามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่องกำหนดให้ข้าวหอมมะลิไทยเป็นสินค้ามาตรฐาน และมาตรฐานสินค้าข้าวหอมมะลิไทย (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2556

           โดยประกาศดังกล่าว กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้ปรับปรุงมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยสำหรับการส่งออกใหม่เป็น 2 ชั้น คือ ข้าวหอมมะลิไทยชนิดพิเศษ (Prime Quality Thai Hom Mali Rice) ต้องมีข้าวหอมมะลิไทยไม่น้อยกว่า 98% โดยปริมาณ ส่วนอีกไม่เกิน 2 % ผสมข้าวชนิดอื่น

         และข้าวหอมมะลิไทย (Thai Ham Mali Rice) ต้องมีข้าวหอมมะลิไทยไม่น้อยกว่า 92% โดยปริมาณ จากเดิมที่กำหนดเพียงชั้นเดียวคือ ข้าวหอมมะลิไทย ที่มีข้าวหอมมะลิไทยไม่น้อยกว่า 92% เท่านั้น หากมีข้าวชนิดอื่นผสมเกิน 8% จะไม่ถือว่าเป็นสินค้ามาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยตามประกาศฉบับนี้

          นอกจากนี้ ยังได้แบ่งสินค้ามาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยเป็น 2 ประเภทคือ ข้าวขาว และข้าวกล้อง โดยข้าวขาวแบ่งเป็น 8 ชนิดคือ ข้าวขาว 100% ชั้น 1, ข้าวขาว 100%  ชั้น 2, ข้าวขาว 100% ชั้น 3, ข้าวขาว 5%, ข้าวขาว 10%, ข้าวขาว 15%, ข้าวขาวหักเอวันเลิศพิเศษ และข้าวขาวหักเอวันเลิศ







           ส่วนข้าวกล้อง แบ่งเป็น 6 ชนิดคือ ข้าวกล้อง 100% ชั้น 1, ข้าวกล้อง 100% ชั้น 2, ข้าวกล้อง 100% ชั้น 3, ข้าวกล้อง 5%, ข้าวกล้อง 10% และข้าวกล้อง 15%

              โดยสินค้ามาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยทุกชั้น ทุกประเภท และทุกชนิด จะต้องมีความชื้นไม่เกิน 14% มีลักษณะทั่วไปเมื่อผ่านกระบวนการสีแล้วเป็นข้าวเมล็ดยาว มีความขาว ท้องไข่น้อยตามธรรมชาติ ไม่มีแมลงที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นต้น  

             การกำหนดมาตรฐานใหม่นี้ กรมการค้าต่างประเทศ ต้องการยกระดับคุณภาพมาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยให้สูงขึ้น เป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้า และเป็นไปตามความต้องการของผู้บริโภคในหลายประเทศ เช่น ฮ่องกง จีน ที่ต้องการบริโภคข้าวหอมมะลิไทยชนิดพรีเมี่ยม หรือมีคุณภาพดี แม้ราคาสูง
เพราะรสชาติ ความหอม และความเหนียวนุ่ม จะแตกต่างจากข้าวชนิดอื่นๆ มาก







            ในกรณีที่ส่งสินค้ามาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยออกไปนอกราชอาณาจักร โดยบรรจุกระสอบ หรือภาชนะอื่นใด ผู้ส่งออกต้องแสดงข้อความภาษาอังกฤษว่า Prime Quality Thai Hom Mali Rice หรือ Thai Hom Mali Rice ตามชั้นคุณภาพที่ส่งออก ที่เห็นได้ชัดเจนบนภาชนะ

           เพื่อให้ผู้ซื้อรู้ว่าเป็นสินค้ามาตรฐานข้าวหอมมะลิไทยแท้ ไม่มีการปลอมปน เป็นการสร้างความมั่นใจให้กับผู้ซื้อว่า จะได้ซื้อข้าวหอมมะลิไทยแท้แน่นอน

            ที่สำคัญ ยังทำให้ผู้บริโภคแยกแยะข้าวหอมมะลิไทยออกจากข้าวชนิดอื่นของประเทศคู่แข่งได้ด้วย เพราะข้าวของประเทศอื่น มีคุณภาพ และราคาแตกต่างจากข้าวหอมมะลิไทยมาก

            ข้าวหอมมะลิไทย ถือเป็นมรดกของชาติ ที่น่าภาคภูมิใจ เชื่อว่า ผู้ส่งออกไทย ผู้ตรวจสอบคุณภาพข้าว และผู้เกี่ยวข้องอื่นๆ จะช่วยกันรักษาคุณภาพมาตรฐานให้เป็นข้าวที่ดีที่สุดในโลกชั่วลูกชั่วหลาน


                                                              ฟันนี่เอส


                                1.พ.ค.57

วันอังคารที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557

ลุ้นส่งออกกู้เศรษฐกิจไทย

       







               ปีนี้ เครื่องยนต์ที่ใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ทั้งการลงทุนภาครัฐ-เอกชน การบริโภคในประเทศ การส่งออก และการท่องเที่ยว ไม่น่าจะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างโดดเด่นอีกแล้ว

               เพราะความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ ที่เริ่มต้นจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองล้วนๆ จากเหตุพรรคการเมืองใหญ่ มีความคิดเห็นแตกต่างกัน จนลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งของคนทั้งประเทศนั้น

              ได้ก่อให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจตามมา เพราะไม่มีรัฐบาลใหม่ที่จะกำหนดนโยบายลงทุน เมื่อลงทุนภาครัฐไม่มี การลงทุนภาคเอกชนที่จะได้รับอานิสงส์จากการลงทุนภาครัฐก็ไม่เกิด ไม่สามารถกระจายรายได้ให้แรงงาน และกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภาคประชาชนได้








          แล้วยังถูกซ้ำเติมด้วยการท่องเที่ยว ที่แม้นักท่องเที่ยวจะยังเดินทางมาเที่ยวไทย แต่จำนวนลดลง เพราะยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย ซึ่งทำให้รายได้จากการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ลดลงตาม

             น่าจะเหลือการส่งออก ที่ยังเครื่องติด เพราะเศรษฐกิจโลก และประเทศคู่ค้า อย่างสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น กำลังฟื้นตัว ประกอบกับ ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง จึงน่าจะทำให้มูลค่าการส่งออกไทยปีนี้ ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 5% จากปีก่อน

             ที่สำคัญจะเป็น พระเอก”  ขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้ แต่ในอัตราเท่าไร 4%, 3%, 2%, 1% หรือติดลบ คงต้องลุ้นว่า ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ จะจบลงเมื่อไร และจบอย่างไร







           จากการได้พูดคุยกับ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาคอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ทราบว่า กรมฯทำงานอย่างหนักร่วมกับภาคเอกชน เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนผู้ส่งออก ให้เร่งส่งออกอย่างเต็มที่ ทำให้มูลค่าการส่งออกขยายตัวได้ตามเป้าหมาย

              และเพื่อให้มูลค่าที่ได้จากการส่งออก เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวให้ได้!! ดังนั้น จึงต้องงัดสารพัดมาตรการช่วยกระตุ้น โดยนอกจากจะโหมอัดกิจกรรมส่งออกอย่างต่อเนื่องแล้ว







            ยังจะเน้นผลักดันการส่งออกสินค้าเจาะลูกค้าเป็นรายกลุ่ม หรือสินค้าที่เป็นเทรนด์ใหม่ของโลก เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มฮิสแปนิก (เชื้อสายสเปน) ในสหรัฐฯ กลุ่มลูกค้าสถาบัน เช่น โรงแรม เรือสำราญ กลุ่มสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีโอกาสส่งออกสูง รวมถึงจะส่งเสริมให้ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกไทย ทำการค้าผ่านออนไลน์ โดยผ่านเว็บไซต์ thaitrade.com เพื่อเพิ่มช่องทางการค้าใหม่ๆ ที่เข้าถึงง่าย และกว้างขวางขึ้น

            ส่วนตลาดใหม่ อย่างอาเซียน จีน ตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา รัสเซียและซีไอเอส (ประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของสหภาพโซเวียต) และแอฟริกา ได้ตั้งคณะทำงาน โดยให้ทูตพาณิชย์ที่เคยทำงานในประเทศนั้นๆ และกลับมาทำงานที่กรมฯแล้ว เป็นหัวหน้าคณะ มีภาคเอกชนเป็นคณะทำงานด้วย เพื่อวางแผนบุกเจาะเป็นรายประเทศ จากเดิมที่มีแผนบุกเป็นรายภูมิภาค

                นอกจากนี้ ยังมีแผนสร้างภาพลักษณ์สินค้าไทย ให้ตลาดใหม่รู้จักว่าไทยผลิตสินค้าใดได้บ้าง เช่น ยานยนต์ผลิตได้ปีละ 2 ล้านคัน เป็นผู้ผลิตและส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าในระดับโลก เป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลก ฯลฯ ซึ่งจะทำแผนประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ในต่างประเทศ เพื่อให้ส่งผลต่อการซื้อสินค้าไทยเพิ่มขึ้น

            คงต้องเอาใจช่วยให้การส่งออกปีนี้ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย หรือมากกว่าเป้าหมาย ไม่เช่นนั้น เศรษฐกิจไทยคงลงเหวอีกครั้งเป็นแน่!!!

                                                                                

                                                                                                   ฟันนี่เอส

                                                               10 เม.ย.57