วันอังคารที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2557

ลุ้นส่งออกกู้เศรษฐกิจไทย

       







               ปีนี้ เครื่องยนต์ที่ใช้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ทั้งการลงทุนภาครัฐ-เอกชน การบริโภคในประเทศ การส่งออก และการท่องเที่ยว ไม่น่าจะมีส่วนช่วยให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้อย่างโดดเด่นอีกแล้ว

               เพราะความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ ที่เริ่มต้นจากปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองล้วนๆ จากเหตุพรรคการเมืองใหญ่ มีความคิดเห็นแตกต่างกัน จนลุกลามกลายเป็นความขัดแย้งของคนทั้งประเทศนั้น

              ได้ก่อให้เกิดปัญหาเศรษฐกิจตามมา เพราะไม่มีรัฐบาลใหม่ที่จะกำหนดนโยบายลงทุน เมื่อลงทุนภาครัฐไม่มี การลงทุนภาคเอกชนที่จะได้รับอานิสงส์จากการลงทุนภาครัฐก็ไม่เกิด ไม่สามารถกระจายรายได้ให้แรงงาน และกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายภาคประชาชนได้








          แล้วยังถูกซ้ำเติมด้วยการท่องเที่ยว ที่แม้นักท่องเที่ยวจะยังเดินทางมาเที่ยวไทย แต่จำนวนลดลง เพราะยังไม่มั่นใจในความปลอดภัย ซึ่งทำให้รายได้จากการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ลดลงตาม

             น่าจะเหลือการส่งออก ที่ยังเครื่องติด เพราะเศรษฐกิจโลก และประเทศคู่ค้า อย่างสหรัฐฯ สหภาพยุโรป และญี่ปุ่น กำลังฟื้นตัว ประกอบกับ ค่าเงินบาทอ่อนค่าลง จึงน่าจะทำให้มูลค่าการส่งออกไทยปีนี้ ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 5% จากปีก่อน

             ที่สำคัญจะเป็น พระเอก”  ขับเคลื่อนให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ขยายตัวได้ แต่ในอัตราเท่าไร 4%, 3%, 2%, 1% หรือติดลบ คงต้องลุ้นว่า ความวุ่นวายทางการเมืองในประเทศ จะจบลงเมื่อไร และจบอย่างไร







           จากการได้พูดคุยกับ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาคอธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ทราบว่า กรมฯทำงานอย่างหนักร่วมกับภาคเอกชน เพื่อส่งเสริม และสนับสนุนผู้ส่งออก ให้เร่งส่งออกอย่างเต็มที่ ทำให้มูลค่าการส่งออกขยายตัวได้ตามเป้าหมาย

              และเพื่อให้มูลค่าที่ได้จากการส่งออก เป็นพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวให้ได้!! ดังนั้น จึงต้องงัดสารพัดมาตรการช่วยกระตุ้น โดยนอกจากจะโหมอัดกิจกรรมส่งออกอย่างต่อเนื่องแล้ว







            ยังจะเน้นผลักดันการส่งออกสินค้าเจาะลูกค้าเป็นรายกลุ่ม หรือสินค้าที่เป็นเทรนด์ใหม่ของโลก เช่น กลุ่มผู้สูงอายุ กลุ่มฮิสแปนิก (เชื้อสายสเปน) ในสหรัฐฯ กลุ่มลูกค้าสถาบัน เช่น โรงแรม เรือสำราญ กลุ่มสินค้าเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งมีโอกาสส่งออกสูง รวมถึงจะส่งเสริมให้ผู้ผลิต/ผู้ส่งออกไทย ทำการค้าผ่านออนไลน์ โดยผ่านเว็บไซต์ thaitrade.com เพื่อเพิ่มช่องทางการค้าใหม่ๆ ที่เข้าถึงง่าย และกว้างขวางขึ้น

            ส่วนตลาดใหม่ อย่างอาเซียน จีน ตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา รัสเซียและซีไอเอส (ประเทศที่เคยเป็นอาณานิคมของสหภาพโซเวียต) และแอฟริกา ได้ตั้งคณะทำงาน โดยให้ทูตพาณิชย์ที่เคยทำงานในประเทศนั้นๆ และกลับมาทำงานที่กรมฯแล้ว เป็นหัวหน้าคณะ มีภาคเอกชนเป็นคณะทำงานด้วย เพื่อวางแผนบุกเจาะเป็นรายประเทศ จากเดิมที่มีแผนบุกเป็นรายภูมิภาค

                นอกจากนี้ ยังมีแผนสร้างภาพลักษณ์สินค้าไทย ให้ตลาดใหม่รู้จักว่าไทยผลิตสินค้าใดได้บ้าง เช่น ยานยนต์ผลิตได้ปีละ 2 ล้านคัน เป็นผู้ผลิตและส่งออกเครื่องใช้ไฟฟ้าในระดับโลก เป็นแหล่งผลิตอาหารที่สำคัญของโลก ฯลฯ ซึ่งจะทำแผนประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ในต่างประเทศ เพื่อให้ส่งผลต่อการซื้อสินค้าไทยเพิ่มขึ้น

            คงต้องเอาใจช่วยให้การส่งออกปีนี้ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย หรือมากกว่าเป้าหมาย ไม่เช่นนั้น เศรษฐกิจไทยคงลงเหวอีกครั้งเป็นแน่!!!

                                                                                

                                                                                                   ฟันนี่เอส

                                                               10 เม.ย.57

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น