วันพุธที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

ส่งสัญญาณถอย!


 











 

           หลังจากร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย หรือฉบับเหมาเข่ง ผ่านสภาผู้แทนราษฎรวาระ 2-3 ไปอย่างรวดเร็ว แบบ ลักหลับนั้น ทำให้สถานการณ์ทางการเมืองร้อนแรงขึ้นมาอีกครั้ง

          ความพยายามของพรรคประชาธิปัตย์ ประสบความสำเร็จ ที่สามารถ จุดไฟให้ประชาชนแทบทุกสาขาอาชีพ ไม่เว้นกระทั่งนิสิต นักศึกษา คณาจารย์ ข้าราชการบางส่วน ที่ไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม หรือการอภัยโทษ คนกระทำความผิดแบบเหมารวม ต้องออกจากบ้าน และที่ทำงาน มาประท้วงคัดค้านการออกกฎหมายนี้อย่างเนืองแน่น

           เกิดปรากฎการณ์ เกลียด-เคียดแค้น-ชิงชังอดีตนายกรัฐมนตรี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร  ขึ้นมาอีกคำรบ อย่างกว้างขวาง

 
 
 
 

          เพราะคนไทยเหล่านี้ เห็นว่า การที่คน หรือกลุ่มบุคคลที่ทำผิด โดยเฉพาะบรรดาแกนนำ ที่พาผู้ชุมนุมไปตาย หรือเป็นคนสั่งให้มีการทำร้าย และฆ่ากัน หรือผู้ที่คอรัปชันโกงกินบ้านเมืองจนเกิดความเสียหาย หรือผู้ที่หมิ่น และจาบจ้วง ไม่สมควรที่จะได้รับการอภัยโทษ คนผิดก็ต้องไปรับโทษตามครรลองของกฎหมาย!!

         การที่รัฐบาลดึงดันผ่านร่างกฎหมายนี้ ไม่ได้มีจุดประสงค์เพื่อความปรองดอง หรือช่วยเหลือประชาชน ที่เดือดร้อนจากการชุมนุมทางการเมืองอย่างปากว่า แต่มีเป้าหมายแอบแฝง เพื่อเอาคนผิดกลับมาตายที่บ้านเกิด

 
 
 
 
 
 
 
 
 

          จึงไม่แปลกที่ผู้คนจำนวนมาก ร่วมคัดค้านร่างกฎหมายฉบับนี้สุดซอยเช่นกัน จนรัฐบาล และภาคเอกชน ออกอาการ หวาดกลัวเพราะเกรงว่า อาจจะซ้ำรอยเหตุการณ์ผ่านๆ มา ที่ยืดเยื้อบานปลาย และรุนแรง จนกระทบต่อธุรกิจ เศรษฐกิจ ภาพลักษณ์อันดี และความน่าเชื่อถือของประเทศ
         
          โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว เครื่องจักรทางเศรษฐกิจเพียงเครื่องเดียว ที่ยังทำหน้าที่กระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ขยายตัวได้ ซึ่งในช่วงนี้จะเข้าสู่ฤดูกาลท่องเที่ยว หรือ ไฮ-ซีซั่น นักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางมาท่องเที่ยวเมืองไทยจำนวนมาก และเป็นช่วงกอบโกยรายได้เข้าประเทศ

          หากเหตุการณ์รุนแรงขึ้น นักท่องเที่ยวต่างชาติ จะหวาดกลัวความไม่ปลอดภัย และล้มเลิกการมาเที่ยวไทย ส่งผลให้รายได้จะหายไปทันที เศรษฐกิจก็จะไม่มีเงินกระตุ้นได้อย่างเต็มที่

 


 
 

          แต่ยังดีที่สถานการณ์ยังไม่ทันจะลุกลามมากกว่านี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้แสดงความกล้าหาญ (กล้าฝ่าฝืนความต้องการของคนที่คุณก็รู้ว่าใคร) ประกาศผ่านโทรทัศน์ ส่งสัญญาณให้วุฒิสภารับรู้ว่า รัฐบาลถอยแล้ว!!
        และให้วุฒิสภา ใช้ดุลพินิจอย่างเต็มที่ โดยอาศัยพื้นฐานของความปรองดอง ความเมตตาธรรม กับผู้ที่เดือดร้อน และผู้ที่เจ็บปวด ให้ได้รับความยุติธรรมอย่างเสมอภาค และไม่ว่าวุฒิสภาจะตัดสินอย่างไร จะไม่เห็นด้วย จะยับยั้งกฎหมาย หรือจะแก้ไขก็ตาม เชื่อว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ลงคะแนนผ่าน พ.ร.บ. ฉบับนี้ จะยอมรับการตัดสินใจด้วยเหตุด้วยผล เพื่อความปรองดองของคนในชาติ

         หลังจากถูกโยนเผือกร้อนโครมใหญ่ขนาดนี้ ล่าสุด วุฒิสมาชิก ได้ขานรับจะคว่ำกันแล้ว แต่ต้องดูว่า ม็อบ จะยอมเลิกราหรือไม่ และเมื่อไร

           แต่อยากรู้เหลือเกินว่า คนไกลบ้านถ้าไม่กลับมาตายที่บ้านเกิดจะตายตาหลับหรือไม่ ถ้าไม่ กรุณาดูบุคคลหลายท่านที่ถูกพิษการเมืองเล่นงาน จนต้องเร่ร่อนไปไกลบ้านเกิด แล้วสุดท้ายไม่ได้กลับมา ซึ่งไม่มีใครกระเหี้ยนกระหือรือออกกฎหมายนิรโทษกรรม แม้บางคนไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดเลย แต่ฝ่ายตรงข้ามกลับตราหน้าว่าเป็นคนผิด!!

 

                                                                                ฟันนี่เอส

 

                                                               7 พ.ย.56