วันอังคารที่ 7 มิถุนายน พ.ศ. 2554

เจาะรัสเซีย



 


                                
                            St.Basil Church กลางจตุรัสแดง








              หลังจากกระทรวงพาณิชย์พยายามอยู่นานกว่า 20 ปี ในที่สุด สามารถเจรจาให้รัสเซียชำระหนี้ค่าข้าว ที่ค้างจ่ายรัฐบาลไทยได้สำเร็จ!!





                                  
                           นางพรทิวา นาคาสัย รมว.พาณิชย์ กำชับเจ้าหน้าที่
                     ตรวจทานบันทึกข้อตกลงการยอมรับชำระหนี้ข้าวจากรัสเซีย

 
            โดยเมื่อเร็วๆ นี้ นางพรทิวา นาคาศัย รมว.พาณิชย์ ได้เดินทางไปรัสเซีย เพื่อลงนามในบันทึกการตกลงการรับเงินชำระหนี้ค่าข้าว 36.44 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,093  ล้านบาท ซึ่งรัสเซียจะโอนเงินให้ ภายใน 30 วันทำการ หรือไม่เกินวันที่ 12 ก.ค.นี้











                              นางพรทิวา นาคาสัย รมว.พาณิชย์ กำลังลงนามบันทึก
                             การตกลงการรับชำระหนี้ค่าข้าวร่วมกับ รมช.คลัง รัสเซีย






รมว.พาณิชย์  จับมือแสดงความยินดีหลังลงนามเสร็จสิ้น


              ปิดฉากการทวงหนี้ที่ยาวนานลงได้อย่างสวยงาม ส่วนจะมีการซื้อขายข้าวล็อตใหม่หรือไม่ ขณะนี้ยังไม่มีการเจรจา แต่เชื่อว่า รัฐบาลไทยคงเข็ดขยาด ไม่ขายแบบสินเชื่ออีกแล้วแน่นอน

               เมื่อพูดถึงรัสเซีย ปัจจุบัน มีการพัฒนาทางเศรษฐกิจอย่างรวดเร็วอีกประเทศหนึ่ง โดยถูกจัดให้อยู่ในกลุ่ม BRIC (บราซิล รัสเซีย อินเดีย จีน และล่าสุดเดือนเม.ย.54 ได้เพิ่มประเทศแอฟริกาใต้เข้าไปด้วย และกลายเป็น BRICS) ในช่วงเวลาเพียงกว่า 10 ปีหลังการเปิดประเทศ

              ส่งผลให้ช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจรัสเซียใหญ่เป็นอันดับ 6 ของโลก มีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศกว่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ กลายเป็นประเทศที่ผู้ค้าต่างๆ ทั่วโลกต้องการทำการค้าขายด้วย ไม่เว้นกระทั่งไทย

              เพราะมีกำลังซื้อมหาศาล จากจำนวนประชากรกว่า 145 ล้านคน ทำให้รัสเซียมีมูลค่าการนำเข้าสินค้าในแต่ละปีเกือบ 100,000 ล้านเหรียญฯ

      แต่น่าเสียดาย มีมูลค่าการนำเข้าจากไทยเพียง  700 ล้านเหรียญฯเท่านั้น ขณะที่ไทยมีมูลค่านำเข้าจากรัสเซียสูงกว่ามาก จนไทยขาดดุลมาโดยตลอด!!

              สินค้าที่ไทยนำเข้ามีทั้งน้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ เหล็ก สินแร่ เคมีภัณฑ์ ซึ่งมีมูลค่ามหาศาล แต่ไทยส่งสินค้าไปขายรัสเซียแต่ละชิ้นมูลค่าไม่มาก เช่น อาหารกระป๋อง อาหารแปรรูป เครื่องปรับอากาศ รถยนต์ เป็นต้น







                                          นักท่องเที่ยวเลือกซื้อของที่ระลึก


           สาเหตุที่ไทยค้าขายกับรัสเซียน้อย นายภาษิต พุ่มชูศรี อัครราชทูต (ฝ่ายการพาณิชย์) สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ กรุงมอสโก เล่าว่า ผู้ส่งออกไทยไม่มั่นใจในความมั่นคงของธนาคารพาณิชย์รัสเซียในการเปิดแอล/ซี เรียกเก็บค่าสินค้า

          นอกจากนี้  ยังเคยชินกับการค้าขายกับตลาดเดิมๆ ที่มีความแน่นอน ไม่อยากเริ่มต้นใหม่ ซึ่งอาจเสี่ยงสูง ขณะเดียวกัน ยังมีคู่แข่งอย่างจีนคุมส่วนแบ่งตลาดไว้เกือบหมด ในเกือบทุกสินค้า ตั้งแต่ของกินยันของใช้ การทำตลาดจึงทำได้ยาก







                             สถาปัตยกรรมยุคสตาลิน เอกลักษณ์อย่างหนึ่งของรัสเซีย


   “เราต้องทำงานหนักเพื่อให้คนรัสเซียรู้จักสินค้าไทยมากขึ้น โดยใช้กลยุทธ์แบบเคาะประตู เข้าถึงตัวผู้นำเข้ารายใหญ่ และนำผู้ประกอบการไทยเข้าร่วมงานแสดงสินค้าต่างๆ ในรัสเซีย มั่นใจว่า ปีนี้การส่งออกไทยไปรัสเซียจะเพิ่มขึ้นถึง 50% มูลค่า 1,050 ล้านเหรียญฯ จากปีก่อนที่เพียง 700 ล้านเหรียญฯสินค้าที่มีโอกาสมาก ได้แก่ เครื่องปรับอากาศ ยานยนต์และชิ้นส่วน อาหาร เช่น ข้าว ไก่ อาหารสำเร็จรูป”

 ผู้ส่งออกไทย ที่เห็นโอกาสต้องกล้าเสี่ยง รีบเจาะรัสเซียได้แล้ว ขืนช้าจะหมดโอกาส ไม่ทันกินคู่แข่งแน่

           
                                                                      
                                                                ฟันนี่เอส

                  
                                                                                                  9 มิ.ย. 54




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น