วันพุธที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2554

ผู้ส่งออกยี้จำนำข้าว!









 
            เข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของการหาเสียงเลือกตั้งกันแล้ว ทำให้ทุกพรรคการเมืองเร่งระดมสรรพกำลังออกพบปะประชาชนหามรุ่งหามค่ำ เพื่อโฆษณาชวนเชื่อให้เห็นด้วยกับนโยบายด้านต่างๆ อย่างเต็มกำลัง รวมทั้งโจมตีนโยบายของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้ามอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน

            ซึ่งหนึ่งในนโยบายที่พรรคการเมืองต่างขั้วเห็นต่างกันคือ นโยบายข้าว โดยพรรคประชาธิปัตย์ หากมีโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง ยังยืนยันเดินหน้านโยบายรับประกันรายได้เกษตรกร    









 
   เพราะทำให้ชาวนามีรายได้ที่มั่นคง และเพิ่มขึ้นถึง 40% จากราคาประกันที่บวกกำไร 40% อีกทั้งยังทำให้ราคาข้าว และระบบการค้าข้าวไม่ถูกบิดเบือน ที่สำคัญรัฐบาลใช้เงินน้อยกว่าการรับจำนำมาก และยังลดปัญหาคอรัปชั่นจากเหลือบวงการข้าวในทุกรูปแบบได้มาก

   แต่การรับประกันครั้งใหม่จะดีกว่าเดิม เพราะจะเพิ่มกำไร และค่าขนส่งให้ตามระยะทาง เพื่อความเป็นธรรมกับเกษตรกรในพื้นที่ห่างไกล ค่าขนส่งแพง

   ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามอย่างพรรคเพื่อไทย กลับใช้นโยบายรับจำนำข้าวหาเสียงกับชาวนา โดยจะรับจำนำข้าวทุกเม็ดในมือชาวนา ในราคาไม่ต่ำกว่าตันละ 15,000 บาท

           เชื่อว่า นโยบายรับจำนำนี้จะดีกว่าทุกยุคทุกสมัย เพราะจะให้เครดิตชาวนา 70% เพื่อซื้อปัจจัยการผลิต และยังจะชดเชยความเสียหายของผลผลิตจากภัยธรรมชาติอีกตันละ 4,000 บาท

            ที่กล่าวมาข้างต้น แม้จะเป็นเพียงนโยบายหาเสียง เพื่อดึงมวลชนให้เลือกพรรคตัวเองให้มากที่สุด และไม่รู้ว่าจะนำมาปฏิบัติจริงมากน้อยเพียงใด แต่ทำเอาผู้ส่งออกข้าวอกสั่นขวัญแขวนกันไปหมด โดยเฉพาะการรับจำนำ ที่อาจตั้งราคารับจำนำสูงถึงตันละ 15,000-20,000 บาท









   เหตุที่ยี้ เพราะต้นทุนข้าวไทยจะสูงขึ้น และทำตลาดลำบาก ดีไม่ดี ผู้นำเข้าไม่สู้ราคา ก็หันไปซื้อจากคู่แข่งอย่างเวียดนาม ที่ราคาถูกกว่าแทน ผลที่ตามมาคือ ไทยส่งออกข้าวได้ลดลง และจะกระทบไปถึงชาวนา ที่อาจขายข้าวได้ปริมาณน้อยลง และราคาถูกลง ส่วนการรับประกันราคา จะชอบมากกว่า เพราะต้นทุนข้าวไม่สูงมาก แข่งขันได้ง่ายขึ้น

   “ฟันนี่เอส” มองว่า ทั้ง 2 นโยบายมีทั้งข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป โดยข้อเสียที่ชัดเจนของการประกันราคาคือ แม้จะใช้เงินน้อย แต่รัฐต้องเสียเงินถึง 2 ต่อ เพราะการประกันราคา ไม่ได้ทำให้ราคาข้าวขึ้น และเมื่อราคาตก ก็ต้องใช้เงินรับซื้อจากชาวนา อีกทั้งรัฐไม่มีข้าวในมือ ที่จะขายเพื่อให้ได้ผลประโยชน์กลับคืนมา

   ต่างจากการรับจำนำ ที่สามารถตั้งราคารับจำนำสูงเพื่อดึงราคาตลาด และยังมีข้าวในมือสร้างอำนาจต่อรองได้ นอกจากนี้ รัฐยังมีส่วนที่ได้กลับคืนมาบ้าง จากการขายข้าวในมือ แต่ก็ต้องใช้งบประมาณมหาศาล และก็มีการทุจริตในทุกขั้นตอน







 
   ไม่ว่าพรรคการเมืองจะใช้นโยบายใดหาเสียง แต่เมื่อได้เป็นรัฐบาล และต้องนำมาปฏิบัติจริง ก็ต้องแก้ไขข้อเสีย เพื่อให้ได้นโยบายดีที่สุดในการช่วยเหลือเกษตรกรให้อยู่ดีกินดีอย่างแท้จริง



ฟันนี่เอส

  23 มิ.ย.54

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น