วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557

หยุดได้หรือยัง?









           ตามคาด!! จนถึงขณะนี้ ผู้นำม็อบทุกกลุ่ม ยังไม่ปล่อยมวลชนกลับบ้าน แม้รัฐบาล พรรคเพื่อไทย ส.ส. (สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร) และส.ว. (สมาชิกวุฒิสภา) ได้ประกาศถอยร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมสุดซอย และยืนยันจะยอมปล่อยให้ตกไปภายใน 180 วัน
           แต่ผู้นำม็อบ ได้คืบจะเอาศอกกลับเรียกร้องให้ประชาชนออกมาชุมนุมให้มากขึ้น เพื่อขับไล่รัฐบาล และตระกูล ชินวัตรออกจากประเทศ มิหนำซ้ำ ยังประกาศ “อารยะขัดขืน“ เรียกร้องให้หยุดงาน และไม่เสียภาษี เพื่อรัฐจะได้ไม่มีเงินไปใช้จ่าย
            การชุมนุมประท้วงข้างถนนเช่นนี้ แม้ผู้มีอารมณ์ร่วมอยู่ในม็อบ มองว่าเป็นการเสียสละความสุขส่วนตน เพื่อประโยชน์ประเทศ และเป็นการยึดประเทศคืนจาก ชินวัตรและรัฐบาลชุดนี้ แต่ในสายตาชาวโลก อาจมองว่า ไม่เป็นผลดีกับภาพลักษณ์ และเศรษฐกิจประเทศ หากการประท้วงยืดเยื้อ บานปลายใหญ่โตมากขึ้น
เพราะจะส่งผลให้นักท่องเที่ยวไม่กล้าเดินทางมาไทย จากความกลัวจะไม่ปลอดภัย ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวจะหายไปทันที ขณะที่นักลงทุนต่างชาติชะลอการลงทุน เพราะไม่มั่นใจว่า ถ้าลงทุนไปแล้ว และการเมืองรุนแรง นโยบายต่างๆ ของรัฐบาลจะไม่ต่อเนื่องและกระทบต่อกิจการได้ หรืออาจไปลงทุนประเทศอื่นแทน  
ขณะเดียวกัน คนไทย ขาดความเชื่อมั่นใช้จ่าย เพราะไม่รู้อนาคตจะเกิดอะไรขึ้น จึงเก็บเงินสดไว้ดีกว่า ที่แย่ยิ่งกว่านั้น หากรัฐบาลมาถึง ทางตันจนต้อง ยุบสภาก็จะยิ่งทำให้การขับเคลื่อนเศรษฐกิจชะงักงัน โดยเฉพาะการลงทุนภาครัฐต้องชะลอออกไป เพราะไม่สามารถทำให้โครงการลงทุนบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2.2 ล้านล้านบาทเกิดขึ้นได้
 เมื่อประชาชนชะลอการใช้จ่าย ขณะที่รายได้จากนักท่องเที่ยว-ส่งออกหด การลงทุนภาคเอกชน และภาครัฐชะลอตัว ย่อมทำให้เศรษฐกิจประเทศเดินหน้าต่อไปได้ยาก!!
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ประเมินผลกระทบจากการประท้วงครั้งไว้หลายกรณี กรณีแรก  ถ้ายืดเยื้อถึงสิ้นปีนี้ แต่ไม่มีเหตุการณ์รุนแรง ไม่กระทบท่องเที่ยว การบริโภค และลงทุนมากนัก คาดเศรษฐกิจจะเสียหาย 10,000-20,000 ล้านบาท และขยายตัวเหลือพียง 3.3-3.4ในปีนี้ แต่ปีหน้ายังขยายตัวได้ 5.1
 แต่ถ้าชุมนุมยืดเยื้อถึงปลายปี มีความรุนแรงจนกระทบท่องเที่ยว การบริโภค และการลงทุนในอนาคต รวมถึงรัฐบาลยุบสภา ความเสียหายจะเพิ่มเป็น 30,000-60,000 ล้านบาทในปีนี้ และเพิ่มเป็น 70,000-100,000 ล้านบาทในปีหน้า หรือเสียหายรวม 150,000 ล้านบาท ทำให้เศรษฐกิจปีนี้ขยายตัวเหลือ 3-3.2และ 4.8-5ในปี 57
 กรณีเลวร้ายสุด หากชุมนุมยืดเยื้อถึงไตรมาสแรกปี 57 เกิดเหตุรุนแรง กระทบต่อท่องเที่ยว ความเชื่อมั่นบริโภค และนักลงทุน เศรษฐกิจปีนี้จะเสียหาย 30,000-60,000 ล้านบาท และปีหน้าอีก 110,000-130,000 รวม 200,000 ล้านบาท เหลือขยายตัวปีนี้เพียง 3-3.2ปีนี้ และปีหน้าโตได้ 4.5-4.7
 จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่หลายฝ่าย ทั้งภาครัฐ และเอกชน ต่างเรียกร้องให้ม็อบทุกกลุ่มยุติการประท้วง และหันหน้าหารือกันในเรื่องที่ยังตกลงกันไม่ได้ เพราะไม่อยากปล่อยให้ประเทศ “ฉิบหาย” มากไปกว่านี้อีกแล้ว


                                                                ฟันนี่เอส

                                                                 
      14 พ.ย.56


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น