วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

เมื่อไรคนไทยจะเลิกแตกแยก!










           เบื่อ! บรรยากาศความเป็นศัตรู การเผชิญหน้าของสังคมไทย และเซ็ง! ความใจแคบ ไม่ยอมรับความคิดเห็น และไม่เคารพสิทธิส่วนบุคคลของพวกนักเลงคีย์บอร์ดอย่างที่เป็นอยู่ในขณะนี้
   
          ที่ต้องเขียนถึงเรื่องนี้ เพราะสุดจะทนกับความแตกแยกเป็นสองฝักสองฝ่ายของสังคมไทย เพียงเพราะความรัก ความชอบ ความเกลียดชัง ในตัวพรรคการเมืองที่ต่างกันของแต่ละคน โดยเฉพาะพรรคการเมืองใหญ่ในประเทศนี้ทั้ง 2 พรรค คือ พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคเพื่อไทย
   
          เป็นเรื่องธรรมดามาก ที่ทั้ง 2 พรรคจะมีทั้งคนรัก คนเกลียด โดยฝ่ายที่รักพรรคประชาธิปัตย์ ย่อมต้องเกลียดพรรคเพื่อไทยอยู่แล้ว และฝ่ายที่รักพรรคเพื่ีอไทยก็ย่อมเกลียดพรรคประชาธิปัตย์  ซึ่งสำหรับคนบางคนเกิดความรัก ความเกลียดก็เพราะได้ยินได้ฟัง เขาเล่ามา หรือ พวกมากลากไปโดยที่ยังไม่ได้สัมผัสความเป็นตัวตน หรือใช้วิจารณญาณพิจารณานโยบายของพรรคนั้นๆ เลยด้วยซ้ำ
   
          แต่ไม่ว่าความรัก ความเกลียดจะเกิดจากเหตุผลใด ก็ไม่อยากให้ประชาชนคนไทย  ที่มีความรักชอบในตัวพรรคการเมืองต่างกัน ต้องด่ากราดใส่หน้ากันแม้ไม่รู้จักกัน หรือตั้งหน้าตั้งตาเป็นศัตรูกัน จนถึงขนาดต้อง ตัดญาติขาดมิตรเหมือนทุกวันนี้!!
   
          โดยเฉพาะพวกนักเลงคีย์บอดร์ในโลกโซเชียลมีเดีย อย่าง เฟสบุ๊ก ที่ทุกวันนี้ คนที่คลั่งกลุ่ม กปปส. จะโพสต์เชียร์ กำนันสุเทพ เทือกสุบรรณเลขากปปส. แทบจะทุกๆ 5 นาที และจะโพสต์ด่า ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี รวมถึงรัฐมนตรี ในรัฐบาลชุดนี้ ไม่เว้นกระทั่งตำรวจ ทหาร นักวิชาการ นักข่าว หรือใครก็ตามที่ไม่ใช่คนของ กปปส. ตลอดเวลาเช่นกัน
   
          คนที่เป็นเพื่อนในเฟสฯ ที่คอเดียวกัน ก็คงกระแทกกดไลค์กระหน่ำทุกโพสต์ และมีเมนต์เจ็บแสบเอามันเข้าว่า แต่สำหรับคนที่มีความเห็นต่าง และไม่อยากแสดงตัวว่าอยู่ฝ่ายตรงข้าม หรือเป็นกลาง เกลียดฝ่ายขัดแย้งทั้ง 2 ฝ่าย ก็จะนิ่งๆ ไม่กดไลค์ ไม่เมนต์
   
          แต่การวางเฉย ไม่แสดงตัวเช่นนี้ อาจถูกเจ้าของเฟสฯ เจ้าของโพสต์เชียร์ สุเทพกระแนะกระแหน ไม่รักชาติ ไม่รักสถาบัน เป็นพวกโลกสวย ไม่เลือกข้าง แล้วก็พาลตัดเพื่อนกันไปก็มี เพราะคิดว่าคนที่มีความเห็นต่าง เป็นศัตรู ไม่ใช่พวกพ้องเดียวกัน
   
          “ฟันนี่เอสไม่อยากให้สังคมไทยเกิดปรากฎการณ์เช่นนี้ เพราะอย่างที่รู้กันอยู่ว่า คนไทยเป็นคนใจดี มีน้ำใจ เป็นมิตร ให้อภัยซึ่งกันและกัน และประเทศไทยก็ได้ชื่อว่าเป็น ประเทศแห่งรอยยิ้มหรือ “Land of Smile” อยากให้สิ่งดีงามเหล่านี้ กลับมา และอยู่คู่สังคมไทยตลอดไทย
   
          เพราะความขัดแย้งของนักการเมือง กลุ่มคนพิเศษเพียงหยิบมือ ที่แสวงหาผลประโยชน์ และโกงกินบ้านเมืองอย่างไม่รู้จบ รวมทั้งยังไม่มี มิตรแท้ศัตรูถาวรในหมู่นักการเมือง หรือเดี๋ยวก็รักกัน เดี๋ยวก็กัดกัน โชว์ประชาชนเช่นนี้
   
          ไม่ควรค่าเลยที่คนไทยต้องเกลียดกันเอง หรือเป็นศัตรูกันเอง ไม่ว่านักการเมืองฝ่ายใดแพ้หรือชนะ คนไทยไม่ได้อะไรเลยจริงๆ คนไทยยังจนอย่างไรก็ยังจนอยู่อย่างนั้น ประเทศไทยด้อยพัฒนาอย่างไรก็ยังด้อยพัฒนาอยู่อย่างนั้น
   
          เช่นนี้แล้ว คนไทยจะมัวนั่งเกลียดกันเองอยู่ทำไม ใช้สติไตร่ตรองเหตุและผล และตาสว่างตื่นจากความฝันลมๆ แล้งๆ ที่นักการเมืองรับปากว่าจะให้ได้แล้ว!!


                                                                        
                                                                                   ฟันนี่เอส

                                                     15
ม.ค. 57

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น