วันอังคารที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2557

สงสารประเทศไทย!










           คงจะไม่ผิดนัก ถ้าพูดว่า การเมือง และนักการเมืองไทยเป็นต้นตอหนึ่งที่ทำให้ประเทศไทยถอยหลังเข้าคลอง ไม่เจริญก้าวหน้าเทียบเท่าอีกหลายประเทศในโลก หรือแม้แต่ในอาเซียนด้วยกันเอง

           นักการเมืองไทยยุคนี้ ส่วนใหญ่เล่นการเมืองเป็นอาชีพ ไม่มีวันเกษียณอายุ เล่นการเมืองตั้งแต่ยังหนุ่ม เมื่ออายุล่วงเข้า 60 70 หรือ 80 ปีก็ยังไม่เลิก ไม่ถอนตัว  มิหนำซ้ำ ยังส่งญาติโกโหติกา มาสืบทอดอีก

               ถ้าเป็นนักการเมืองน้ำดี ที่เป็นตัวแทน เป็นกระบอกเสียงของประชาชนอย่างแท้จริง เข้ามาทำงานเพื่อประชาชน ประเทศชาติ ไม่โกงชาติโกงแผ่นดิน อยู่ในอาชีพนี้นานเท่าไรไม่มีใครว่า เพราะถือว่าเป็นผู้ทำคุณประโยชน์ให้กับบ้านเมือง และประชาชน เมื่อเสียชีวิตไปแล้ว ผู้คนจะเสียดาย และสรรเสริญคุณงามความดีไม่จบไม่สิ้น

                แต่ถ้าเป็นนักการเมืองน้ำเน่า ที่มีพฤติกรรมอุบาทว์ตั้งแต่การเลือกตั้ง แจกเงินชาวบ้านเพื่อซื้อเสียง เมื่อได้เป็นส.ส.แล้วไม่ได้ทำอะไรที่เป็นประโยชน์ต่อประชาชน และประเทศชาติ แต่กลับโกงกินทุกรูปแบบเพื่อถอนทุนคืน สร้างความเสื่อมเสียให้กับประเทศชาติแล้ว

           แบบนี้แค่ให้เข้ามานั่งชูคอในสภาเพียงวันเดียว ผู้คนก็ยังรังเกียจ และพร้อมจะก่นดา สาปแช่ง หรือสมน้ำหน้าเมื่อลาโลกไปแล้ว!!

           แต่เชื่อขนมกินได้เลยว่า นักการเมืองไทยส่วนใหญ่จะเป็นแบบหลัง ที่ในหัวสมองมีแต่เรื่องการทุจริตคอรัปชันตลอดเวลา ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล คิดนโยบายเพื่อโกงกินอย่างเป็นล่ำเป็นสัน มากกว่าการคิดนโยบายดีๆ มาบริหารประเทศให้เจริญก้าวหน้ากว่าประเทศอื่น

             เมื่อบุคคลเหล่านี้ อยู่ในวงการการเมืองมาตลอดชั่วอายุ จึงเป็นธรรมดาที่การบริหารบ้านเมืองย่อมไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร การพัฒนาประเทศสะดุด เศรษฐกิจประเทศไม่ขยายตัวต่อเนื่อง คนไทยยังเป็นคนจนดักดาน เพราะเงินงบประมาณทุกบาททุกสตางค์ไม่ได้นำมาพัฒนาประเทศอย่างคุ้มค่า มีบางส่วนหายเข้ากระเป๋าผู้มีอำนาจอย่างจับมือใครดมไม่ได้ ทำให้ประเทศไทยไม่หลุดพ้นจาก ประเทศกำลังพัฒนาเสียที

              เมื่อสันดานนักการเมืองเป็นเช่นนี้ ไม่ว่าพรรคการเมืองใดบริหารประเทศ ก็ไม่น่ายินดีทั้งนั้น เพราะรู้ๆ อยู่แล้วว่า ล้วนแต่จ้องกอบโกยประโยชน์เข้าตัวเองและพวกพ้อง แทบจะหาคนมุ่งมั่นทำงานรับใช้ประเทศชาติ รับใช้ประชาชนอย่างแท้จริงไม่ได้ 

               ความวุ่นวายทางการเมืองขณะนี้ ฟันนี่เอสจึงไม่ได้มองใครเป็นฮีโร่ หรือเป็นวีรบุรุษ ที่นำพาม็อบยึดสถานที่ราชการ กดดันรัฐบาล ล้มล้างระบบ ทักษิณ”  แต่เห็นเป็นเพียง การแก้แค้นเอาคืนมากกว่า โจมตีว่าเขาทุจริต แต่ลืมไปว่า ในอดีตตนเองบริหารประเทศอย่างไร สันดานนักการเมืองไทยไม่มีใครดีไปกว่ากันจริงๆ

               เชื่อได้ว่า เหตุการณ์เช่นนี้จะเกิดขึ้นอีกหลายครั้ง ตราบใดที่นักการเมืองไทยยังหน้า พรรคการเมืองใหญ่ยังมีเพียง 2 พรรค และผลัดกันขึ้นเป็นรัฐบาลและฝ่ายค้านอยู่เช่นนี้

               ต่อไปประเทศไทยคงหายไปจากแผนที่โลก เพราะต่างชาติไม่กล้ามาทำการค้า การลงทุน หรือท่องเที่ยว เศรษฐกิจคงย่ำแย่แสนสาหัส ธุรกิจห้างร้านเจ๊ง ผลิตสินค้าไม่มีคนซื้อ ส่งออกไม่ได้ ไม่มีเงินจ้างคนงาน ส่วนแรงงานก็รอวันอดตายสถานเดียว

               ประเทศไทยคงต้องนับถอยหลังเข้าสู่วันล่มสลาย ถ้านักการเมืองยังแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น และไม่ทิ้งสันดานแบบนี้ น่าสงสารบรรพบุรุษ น่าสงสารประเทศ และน่าอดสูที่สุด!



                                                                                     ฟันนี่เอส


                                                       28
พ.ย.56

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น