วันอังคารที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2554

ทิ้งทวนหาเสียง


       
         ก่อนที่รัฐบาลชุดนี้จะประกาศยุบสภา ก็ทยอยออกโครงการต่างๆ มาเซอร์ไพรส์คนไทยไม่น้อย เรียกว่า เป็นการทิ้งทวนช่วยเหลือ (หาเสียง) ประชาชน หนึ่งในนั้นคือ มาตรการช่วยเหลือให้ประชาชนมีบ้านหลังแรกเป็นของตนเองได้ง่ายขึ้น

ซึ่งขณะนี้ นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กำลังให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) จัดทำรายละเอียดของโครงการเพื่อเร่งนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์หน้า หากได้รับไฟเขียวก็สามารถดำเนินการได้ทันทีสำหรับโครงการแรก ส่วนโครงการหลัง ต้องรออีกระยะหนึ่ง

โดยโครงการแรก คือ โครงการบ้านหลังแรก ดอกเบี้ย 0% ใน 2 ปีแรก ซึ่งจะทำให้ผู้กู้ซื้อบ้านมีภาระผ่อนชำระเฉพาะเงินต้นเท่านั้น แต่ต้องเป็นการกู้ซื้อบ้านไม่เกินหลังละ 3 ล้านบาท กู้สูงสุด 30 ปี ยื่นคำขอกู้ได้วันที่ 1 พ.ค.– 30 ธ.ค.54   และทำนิติกรรมภายในวันที่ 1พ.ค.55 วงเงินสินเชื่อรวมทั้งหมด 50,000 ล้านบาท

และโครงการแปลงเช่าเป็นซื้อ เพื่อให้คนที่เช่าบ้านอยู่แล้วสามารถแปลงค่าเช่า ที่ต้องเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ในแต่ละเดือนเป็นเงินผ่อนเพื่อซื้อบ้านได้ โดยผู้มีสิทธิ์กู้ซื้อบ้านต้องราคาไม่เกินหลังละ 1.5 ล้านบาท และเสียค่าเช่าอยู่แล้วเดือนละไม่เกิน 10,000 บาท

ไม่เพียงแค่นั้น ที่รัฐบาลจะทุ่มให้ประชาชน แต่รัฐบาลยังจะรับภาระค่าธรรมเนียมการโอน และการจดจำนองอีก โดยคาดว่า ทั้ง 2 รายการนี้ รัฐบาลจะใชงบประมาณสนับสนุนประมาณ 600 ล้านบาท

         เป็นไงล่ะ! แค่นี้ก็กระตุ้นต่อมอยากของคนที่กำลังคิดจะมีบ้าน แต่ยังกล้าๆ กลัวๆ ให้เร่งตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นแล้ว ถือว่า เป็นมาตรการที่ถูกใจคนมีรายได้ปานกลางมากโข

        เพราะการกู้เงินโดยปลอดดอกเบี้ยนานถึง 2 ปี จะช่วยประหยัดเงิน ที่จะนำมาชำระดอกเบี้ยให้ธนาคารได้มากทีเดียว ยกตัวอย่างจากประสบการณ์ตรงของ “ฟันนี่เอส” ก็แล้วกัน กู้เงินซื้อบ้าน 2 ปีแรก ต้องเสียดอกเบี้ยให้ธนาคารมากถึงปีละเกือบ 90,000 บาท รวม 2 ปีก็เกือบ 180,000 บาท ถ้าไม่ต้องเสียเงินก้อนนี้เป็นดอกเบี้ย แต่เอามาผ่อนเป็นเงินต้นแทน จะทำให้สามารถผ่อนชำระหนี้ได้หมดเร็วขึ้นมาก

คนที่ยังไม่เคยผ่อนบ้าน คงไม่รู้หรอกว่า เงินที่เราหามาได้แบบเลือดตาแทบกระเด็น เพื่อเป็นค่าผ่อนบ้าน แต่ส่วนใหญ่หมดไปกับค่าดอกเบี้ยให้ธนาคาร โดยมีเงินต้นเพียงเล็กน้อยนั้นน่ะ มันสาหัสสากรรจ์ขนาดไหน!!

        นอกจากนี้ ยังถือเป็นการกระตุ้นวงการอสังหาริมทรัพย์อีกทางหนึ่งด้วย เพราะทำให้ประชาชนตัดสินใจซื้อบ้านได้ง่ายขึ้น และเร็วขึ้น ไม่ต้องกังวลว่า จะมีปัญหาในการผ่อนชำระ

แต่น่าเสียดายก็ตรงที่ โครงการนี้จะไม่ให้คนที่ผ่อนบ้านอยู่ก่อนแล้วกับธนาคารพาณิชย์แห่งอื่น มารีไฟแนนซ์ เพื่อป้องกันปัญหา และความวุ่นวายที่อาจเกิดขึ้น เพราะคาดว่าจะมีคนจำนวนมากที่อยู่ระหว่างการผ่อนชำระมาขอรีไฟแนนซ์กับธอส.

เอาล่ะ! ใครที่กำลังจะซื้อบ้านต้องเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อจะได้รับสิทธิ์ขอกู้ ขืนชักช้า และพลาดโอกาส ก็ไม่รู้ว่า รัฐบาลหน้าจะซื้อเสียงประชาชนแบบนี้อีกหรือเปล่า

                                                           ฟันนี่เอส

                                                                                        28 เมย 54

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น