วันอังคารที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2555

เขาชื่อ“ณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ”


 

           
 
 
 
 
 
 

จนถึงวันนี้ เชื่อแน่ว่า รัฐมนตรีหลายคนที่ถูกสับเปลี่ยนโยกย้าย หรือถูกปลดออกจากตำแหน่ง คงเก็บข้าวของออกจากห้องทำงานเดิมกันหมด และเตรียมไปจัดห้องหับ ข้าวของในที่ทำงานใหม่กันแล้ว

 

กระทรวงพาณิชย์ เป็นอีกหนึ่งกระทรวงที่มีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่ง รมช.พาณิชย์ โดยปรับลดเหลือเพียง 1 ตำแหน่ง จากเดิมที่มี 2 ตำแหน่ง

 

โดยรมช.พาณิชย์ที่หลุดออกจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) ชุดนี้คือ นายภูมิ สาระผล ซึ่งรู้ตัวเองดี และมักจะประกาศต่อหน้าสื่อมวลชนประจำกระทรวงพาณิชย์อยู่เสมอๆ ว่าคงจะไม่รอดจากการปรับครม.ครั้งนี้แน่นอน

 

ส่วนนายศิริวัฒน์ ขจรประศาสน์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ “เสธ.หนั่น” พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ที่ยังมีบารมีของพ่อคุ้มครองอยู่ ทำให้ไม่ถูกปรับออกจากครม. เพียงแค่โยกย้ายไปนั่งเป็นรมช.เกษตรและสหกรณ์

 

สลับที่นั่งกับ “นายณัฐวุฒิ ไสยเกื้อ” หนึ่งในแกนนำกลุ่มคนเสื้อแดง หรือแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.)

 

การมานั่งเป็นรมช.พาณิชย์ของนายณัฐวุฒิครานี้ เรียกเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของคนในกระทรวงพาณิชย์ได้เป็นอย่างดี ซึ่งมีทั้งเสียงด่าและเสียงชื่นชม อย่างเสียงด่าที่ได้ยินมาอย่างหนาหู เช่น ยกมือไหว้ไม่ลง ก่อนออกจากบ้านคงต้องยกมือไหว้สัตว์ชนิดใดชนิดหนึ่งในบ้านก่อน พอมาเจอรมช.ใหม่แล้วถึงจะยกมือไหว้ได้ จะทำงานได้หรือเปล่า

 

หรือสงสัยคงจะมาช่วยโกงกินบ้านเมือง คงจะยกพวกแดงเถื่อนมาเดินกร่างเต็มกระทรวงฯ และถลุงงบประชาสัมพันธ์ของแต่ละหน่วยงานเป็นว่าเล่น อยู่กระทรวงเกษตรฯทำให้ยางราคาตก มากระทรวงพาณิชย์ คงทำให้สินค้าอื่นๆ ราคาตกอีกแน่ ถ้าเข้ามาทำงานที่กระทรวงพาณิชย์ จะแต่งดำไว้ทุกข์รอต้อนรับ และอื่นๆ อีกมากมายเกินบรรยาย

 

ส่วนฝั่งตรงข้าม จะส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ เช่น ท่าทางน่าจะเป็นคนเอาจริงเอาจังในการทำงาน และน่าจะทำงานได้ดี น่าจะสู้รบปรบมือกับพวกภาคเอกชนที่เขี้ยวลากดินได้ไม่ยาก น่าจะช่วยรมว.พาณิชย์สู้ศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจได้ ท่าทางไม่น่าจะเป็นคนกร่าง หรือไม่มีสมองอย่างที่เป็นข่าว น่าจะช่วยขับเคลื่อนงานของกระทรวงพาณิชย์ให้เดินหน้าได้ เป็นต้น

 

สิ่งเหล่านี้เป็นความรู้สึกของคนในกระทรวงพาณิชย์ที่มีต่อรมช.คนใหม่ ซึ่งไม่ใช่เป็นเสียงของคนทั้งหมด แต่เป็นเพียงเสียงของคนกลุ่มเล็กๆ เท่านั้น ที่ใช้อารมณ์ ความรู้สึกชอบ/ไม่ชอบทางการเมืองเข้ามาตัดสินตัวตนของคนคนหนึ่ง

 

ทั้งที่ยังไม่รู้ว่า ตัวตนที่แท้จริงของเขาเป็นอย่างไร จะเลวร้ายอย่างที่ปรากฏตามข่าว ที่ต้องสวมบทบาท หรือเล่นไปตามบทของแกนนำคนเสื้อแดง ที่ลุกขึ้นต่อสู้กับกลุ่มคนฝ่ายตรงข้ามหรือไม่

 

แต่ในฐานะที่ “ฟันนี่เอส” เป็นสื่อมวลชน ก็คงจะมีความรู้สึกเช่นเดียวกับสื่อมวลชนทุกคนในกระทรวงพาณิชย์ รวมถึงข้าราชการในกระทรวง และประชาชนทั่วประเทศ ที่จะรอพิสูจน์ตัวตนที่แท้จริง และศักยภาพในการทำงานของ “นายณัฐวุฒิ” ว่าจะสมราคา และสมศักดิ์ศรีของบุคคลที่ได้รับคัดเลือกให้เข้ามานั่งเป็นส่วนหนึ่งของครม.ในการบริหารประเทศ

 

และที่สำคัญ จะสมเกียรติของคนที่ได้ปฏิญาณตนว่าจะรับใช้บ้านเมืองหรือไม่หรือไม่?

 

 

ฟันนี่เอส

 

1 พ.ย.55

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น