วันพุธที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2555

จำนำข้าวไม่ขัดรัฐธรรมนูญ


 










 

แถลงข่าวครั้งแรกของการปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ผู้หญิงคนแรก ของ นางวัชรี วิมุกตายนเมื่อวันก่อน ทำเอานักข่าวอึ้ง!ไปตามๆ กัน

 

เพราะท่านปลัดฯมีนัดหมายจะแถลงข่าวตัวเลขเงินเฟ้อเดือนก.ย.55 แต่พอเริ่มจับไมค์ปุ๊บ ก็เปิดฉากตอกกลับนักวิชา นิด้าเรื่องโครงการรับจำนำข้าวเปลือกปั๊บ

 

โดยโต้กลับว่า โครงการนี้ ไม่ได้ขัดกับกฎหมายรัฐธรรมนูญ มาตรา 84 (1) ที่กำหนดว่า รัฐต้องดำเนินนโยบายให้เกิดการค้าเสรี อย่างเป็นธรรม โดยอาศัยกลไกตลาด และรัฐต้องไม่ดำเนินธุรกิจที่แข่งขันกับเอกชน ตามที่นักวิชาการกล่าวอ้าง แต่โครงการนี้กลับสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญมาตรา 84 (8) ที่ระบุว่า รัฐต้องคุ้มครองผลประโยชน์ของเกษตร




 
 
 
 
 
 
 
 
 

เพราะการรับจำนำข้าว ช่วยให้เกษตรกรได้รับความเป็นธรรม  ไม่ถูกกดราคารับซื้อ นอกจากหักเงินไปตามความชื้นที่สูงเกิน 25% และสิ่งเจือปน ส่งผลให้ขายข้าวในราคาสูงขึ้น มีเงินเหลื่อใช้จ่าย และใช้หนี้ได้ รวมทั้งอาจปลดหนี้ได้ในที่สุด จากที่ผ่านมา เกษตรกรมักถูกพ่อค้าคนกลาง โรงสี หรือผู้ส่งออกบางรายกดราคารับซื้อเป็นว่าเล่น ทำให้ขายได้จริงไม่กี่บาท

 

ส่วนเรื่องที่นิด้าอ้างว่า รัฐทำธุรกิจแข่งกับเอกชนนั้น ท่านปลัดฯชี้แจงว่า ไม่ใช่ และทำไม่ได้แน่นอน แต่การรับจำนำข้าวทุกเมล็ด ไม่ได้หมายความว่า เกษตรกรจะต้องเอาข้าวทุกเมล็ดมาเข้าโครงการจริงๆ หากเอกชน “กล้า” ซื้อในราคาดีกว่า หรือเท่ากับราคารับจำนำ เกษตรกรย่อมขายให้อยู่แล้ว

เพราะจะได้รับเงินทันที แต่ส่วนมาก เอกชนไม่ “กล้า” ซื้อแข่งกับรัฐ ถ้าซื้อไม่ได้ก็จะรอช้อนซื้อข้าวจากสต๊อกรัฐแทน

 

นอกจากนี้ ท่านปลัดฯยังยืนยันอีกว่า การรับจำนำข้าวเปลือกปี 54/55 และนาปรังปี 55 ทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นเกือบ 200,000 ล้านบาท และทำให้เศรษฐกิจไทยขยายตัวได้ไม่ต่ำกว่า 2% ดังนั้น รัฐบาลจะไม่ล้มโครงการนี้แน่นอน

 

”ฟันนี่เอส” สรุปกันให้เห็นชัดๆ อีกครั้งว่า ตามความคิดของรัฐบาล ณ เวลานี้ โครงการรับจำนำข้าวถูกต้อง เหมาะสม และเป็นธรรมกับเกษตรกรมากที่สุด!!

 

แต่อยากให้คิดนิดนึงว่า งบที่ใช้ในการรับจำนำที่ ครม.เมื่อวันที่ 2 ต.ค.ที่ผ่านมา เพิ่งอนุมัติกรอบที่ 405,000 ล้านบาท จะเป็นการใช้งบเกินตัว และสร้างภาระหนี้สินให้ประเทศและประชาชนหรือไม่?

 
 
 
 
 
 
 

รัฐจะเอาจริงเอาจังในการป้องกัน และปราบปรามการทุจริตอย่างไร เพราะมีคนสมรู้ร่วมคิดจำนวนมาก ตั้งแต่เกษตรกรไปจนถึงนักการเมือง รัฐจะช่วยเหลือเกษตรกรลดต้นทุนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตระยะยาวอย่างไร เพื่อในอนาคต จะได้ลดการรับจำนำลง

 

แต่เหนืออื่นใด ถ้ากระทรวงพาณิชย์ ขายข้าวในสต๊อกรัฐไม่ได้ตามคาดการณ์ว่าจะมีเงินคืนให้ ธ.ก.ส. ตั้งแต่ไตรมาสสุดท้ายปีนี้ถึงไตรมาสสุดท้ายปีหน้ารวม 260,000 ล้านบาทแล้ว รัฐบาลจะเอาจากไหนมารับจำนำต่อ เกษตรกรที่รออยู่จะทำอย่างไร

 

เพราะงบ 405,000 ล้านบาทที่จะใช้รับจำนำนั้น ครม.ได้ให้กระทรวงการคลังค้ำประกันเงินกู้แก่ธ.ก.ส. 150,000 ล้านบาท ส่วนที่เหลือจะเอามาจากการขายข้าวในสต๊อกรัฐ

 

สิ่งเหล่านี้รัฐบาลคิดตกหรือยังว่าจะมีวิธีการรับมืออย่างไร ไม่มีใครเถียงว่ารับจำนำไม่ดี แต่สมควรหรือไม่ที่รัฐจะตะบี้ตะบันทำโดยไม่ฟังเสียงใครเลย!!

 

 

      ฟันนี่เอส

 

     4 ต.ค.55

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น