วันจันทร์ที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2555

ธุรกิจเอาเปรียบที่สุดในโลก


















            ได้รับการร้องเรียนจากผู้อ่านหลายท่าน และการบอกเล่าจากเพื่อนๆ ว่า ไม่ได้รับความสะดวกในการทำเรื่องขอเข้าร่วมโครงการให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ผู้ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยในปี 54 (ซอฟท์โลน) ของธนาคารพาณิชย์หลายแห่ง


             เรื่องของเรื่องคือ หลังจากที่ส่งเอกสารคำขอเข้าร่วมโครงการ และหลักฐานต่างๆ ไปยังธนาคารแล้ว โดยเฉพาะส่งไปสำนักงานใหญ่ ผ่านไปเดือนครึ่งยังไม่ได้รับการติดต่อจากธนาคารเลย

             ทั้งที่ในใบแจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมโครงการ ระบุชัดเจนว่า ลูกค้าจะยินยอมให้ธนาคารตรวจสอบเอกสารหลักฐานไม่น้อยกว่า 15 วันทำการ


             พอโทรศัพท์กลับไปถามความคืบหน้า เจอหลายกรณีมาก ทั้งโทรศัพท์สายไม่ว่างบ้าง อาจเป็นเพราะมีลูกค้าโทร.เข้ามาสอบถามเหมือนกันจำนวนมาก ซึ่งถ้าเป็นกรณีที่ว่าจริง ก็ให้อภัยกันได้ แต่คนที่เล่าให้ฟังบอกว่า พยายามกดโทรศัพท์ทั้งวัน แบบว่าว่างเมื่อไรก็ต้องกดโทรศัพท์ ปรากฎว่า สายไม่ว่างเลย (เหมือนแกล้งยกหูโทรศัพท์ออก)


              หรือถ้าสายว่าง กลับไม่มีคนรับสาย ส่วนอีกเคส โทร.ไปโชคดีมีคนรับสาย แต่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย อ้างว่าไม่ใช่เจ้าหน้าที่ประจำโต๊ะ เป็นแค่พนักงานฝึกหัดเท่านั้น พอถามว่า เจ้าหน้าที่หายไปไหนหมด ได้รับคำตอบว่า ออกไปหาลูกค้าข้างนอกหมด ทำให้คนที่โทร.ไปได้แต่สงสัยว่า แล้วลูกค้าเก่าไม่ยินดีให้บริการเลยหรือไร จึงได้แต่บอกให้ปลายสายรับเรื่องไว้ให้ แล้วแจ้งให้เจ้าหน้าที่ประจำโต๊ะโทร.กลับมาหาด้วย แต่ผ่านไปหลายวันก็ยังไม่มีใครโทร.กลับมาแจ้งความคืบหน้าใดๆ เสียที


             หรือถ้ามีเจ้าหน้าที่โทร.กลับมา ก็เป็นแบบเอกสารของลูกค้ายังมาไม่ถึง ไม่รู้ว่าไปตกหล่นอยู่ที่ไหน ธนาคารขอเวลาหาเอกสารก่อน แล้วจะโทร.กลับมาแจ้งความคืบหน้าอีกครั้ง (ทั้งๆ ที่เวลาผ่านไปเดือนกว่าเนี่ยนะ)








              ถ้า ฟันนี่เอสเจอเหตุการณ์แบบนี้เข้า คงพูดได้คำเดียวว่า เซ็งสุดๆ” (เป็นลูกค้าเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์เหมือนกัน) เพราะหัวอกของลูกค้าเงินกู้ ที่ต้องการลดดอกเบี้ยเงินกู้จากปัจจุบันที่กว่า 7% ให้เหลือ 3% นาน 5 ปี ตามเงื่อนไขของโครงการซอฟท์โลนครั้งนี้


             เมื่อส่งเอกสารคำขอไปแล้ว ก็ได้แต่นั่งนับวันรอว่าเมื่อไรจะได้รับการติดต่อจากธนาคาร เมื่อไรจะได้รับการอนุมัติ เพราะยิ่งอนุมัติเร็วเท่าไร ก็จะประหยัดเงินที่จะต้องจ่ายเป็นดอกเบี้ยให้แบงก์มากขึ้นเท่านั้น


             แต่เมื่อทุกอย่างไม่เป็นอย่างที่คาดหวัง แล้วไม่รู้ชะตากรรมของตัวเองด้วยว่า จะได้รับการอนุมัติหรือไม่ เพื่อนคนหนึ่งจึงต้องใช้ อภิสิทธิ์ขอความช่วยเหลือจากผู้ใหญ่ ซึ่งไม่ถึง 10 นาทีหลังจากการโทร.ขอความช่วยเหลือ เจ้าหน้าที่ระดับผู้จัดการก็โทร.กลับมาหา โดยแสดงความยินดีที่จะช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวกให้อย่างเต็มที่            


              ฟันนี่เอสไม่เข้าใจว่า ทำไมธนาคารจึงปล่อยให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ ผู้บริหารจะรู้หรือไม่ว่า ลูกน้องทำงานกันแบบไม่เหลียวแลใยดีลูกค้าเก่าเลย แต่กลับขวนขวายหาลูกค้าใหม่ เพื่อทำยอดให้ได้ตามเป้าหมาย!!


             แล้ววันหนึ่ง เมื่อลูกค้าใหม่เหล่านั้นกลายเป็นลูกค้าเก่า ก็จะถูกกระทำเช่นเดียวกันนี้อีก นี่ยังไม่รวมพฤติกรรมอื่นๆ ที่ธนาคารทั้งหลายใช้กับประชาชน เพื่อดึงดูดให้เป็นลูกค้า แล้วสุดท้ายก็เหมือนกับการ หลอกลวงประชาชน ไม่ต้องบอกก็รู้ว่า ลูกค้าเหล่านั้นจะเสื่อมศรัทธาในตัวธนาคารมากเพียงไร

             อยากให้ผู้บริหารระดับสูงของแต่ละแบงก์ ดูแลสิ่งเหล่านี้บ้าง ก่อนที่ประชาชนจะหมดศรัทธากับธุรกิจธนาคาร ที่ปัจจุบันกลายเป็นธุรกิจที่เห็นแก่ได้ และเอาเปรียบประชาชนมากที่สุดในโลก





                                                ฟันนี่เอส

                                              9 ส.ค. 55

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น