วันจันทร์ที่ 12 ธันวาคม พ.ศ. 2554

จับตารัฐปราบทุจริตจำนำข้าว







            รัฐบาลเพิ่งประกาศเริ่มโครงการรับจำนำข้าวเปลือกนาปีปี 54/55 ได้เพียงเดือนกว่า ก็เกิดข่าวฉาวขึ้นแล้ว ไม่มีอะไรเหนือความคาดหมายของสังคมเล้ย เพราะมั่นใจอยู่แล้วว่า จะมีทุจริตคอรัปชันเกิดขึ้นแน่นอน แม้รัฐบาลจะโก่งคอการันตีไม่มีทุจริต 100% เพียงแต่รอเวลาให้เป็นข่าวเท่านั้น

            โดยล่าสุด เจ้าของคลังสินค้า/โกดัง ที่สมัครเข้าร่วมเป็นโกดังกลาง รับฝากเก็บข้าวรัฐ ที่ได้มาจากการรับจำนำของเกษตรกร ได้เรียกร้องให้ นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ตรวจสอบพฤติกรรมเจ้าหน้าที่องค์การคลังสินค้า (อคส.) โดยด่วน

            เพราะสุดทนกับพฤติกรรมเรียกรับเงินใต้โต๊ะกระสอบละ 2 บาท แลกกับการได้รับคัดเลือกให้ได้เป็นโกดังกลางฝากเก็บข้าวในโครงการฯ หากรายใดไม่ยอมจ่าย ก็จะชวดงานนี้ไป

            คิดกันเล่นๆ ว่า ถ้าเจ้าของโกดังแต่ละรายมีพื้นที่เก็บข้าวได้ 3,000 ตัน หรือ 30,000 กระสอบ ต้องจ่ายใต้โต๊ะถึง 60,000 บาท แต่เจ้าของโกดังทั่วประเทศไม่ได้มี 1-2 ราย แต่มีจำนวนมาก และบางรายมีศักยภาพเก็บข้าวได้เป็นหมื่นตัน ทำให้หลับตาเห็นเลยว่า จะมีเงินไหลเข้าสู่กระเป๋าเจ้าหน้าที่รัฐได้เป็นกอบเป็นกำ

            เพราะ “ฟันนี่เอส” มั่นใจว่า มีเจ้าของโกดังจำนวนมาก ที่แม้จะไม่พอใจกับการถูกขูดรีด แต่ก็พร้อมจะจ่ายเงิน เพื่อให้ได้งาน และได้ค่าฝากเก็บข้าวจากรัฐตันละ 20 บาทต่อเดือน ถ้าเก็บข้าวรัฐ 3,000 ตัน ก็จะได้เงินเฉยๆ เดือนละ 60,000 บาท ถ้า 5,000 ตัน จะได้เงินถึงเดือนละ 100,000 บาท

            นี่ยังไม่ได้พูดถึงการเรียกเงินใต้โต๊ะจากขั้นตอนอื่นๆ อีก เช่น การเรียกเงินจากบริษัทตรวจสอบคุณภาพข้าว (เซอร์เวเยอร์) เพื่อให้ได้รับการคัดเลือกเข้าตรวจสอบคุณภาพข้าวในโครงการฯ หรือการเรียกใต้โต๊ะของเจ้าหน้าที่รัฐส่วนอื่นๆ ที่เก็บจากผู้ส่งออก แลกกับการเป็นผู้ชนะการประมูลซื้อข้าวในสต๊อกรัฐ





            หรือกรณีที่ภาคเอกชนเรียกเก็บจากภาคเอกชนด้วยกันเอง เช่น เซอร์เวเยอร์เรียกเงินจากเจ้าของโกดัง หรือโรงสี เพื่อให้ตรวจสอบปริมาณ และคุณภาพตรงกับก่อนรับฝากเก็บ หลังจากโกดังนำข้าวรัฐออกไปขายก่อน หรือโรงสีภาคกลางบางรายเตรียมจ่ายเงินให้เจ้าหน้าที่รัฐ แลกกับการอนุมัติให้สามารถข้ามเขตเข้าไปรับจำนำข้าวจากเกษตรกรภาคอีสานได้ หนำซ้ำยังเตรียมนำเอาข้าวราคาถูก คุณภาพต่ำจากภาคกลาง เช่น ข้าวเจ้า ข้าวหอมปทุมธานี มาปลอมปนกับข้าวหอมมะลิฟันกำไรส่วนต่างอีก เป็นต้น

    สิ่งเหล่านี้เป็นความรู้พื้นฐานที่คนเกี่ยวข้องกับโครงการรับจำนำรู้กันดี แต่ไม่รู้ว่า ตัวรัฐบาลเอง จะรู้ทันล่ห์เหลี่ยมกลุ่มคนเหล่านี้ และปิดช่องได้หรือไม่

            แต่ “ฟันนี่เอส” ขอสบประมาทตรงนี้เลยว่า รัฐบาลไม่สามารถปราบทุจริตได้แน่นอน!! เพราะคนที่เคยทุจริต ต้องอดอยากปากแห้งมานาน หลังรัฐบาลก่อนใช้โครงการประกันรายได้เกษตรกรแทน แต่เมื่อรับจำนำมา ต่างไชโยโห่ร้อง และเตรียมพร้อมเข้าสู่เส้นทางผลประโยชน์ หาช่องทางกอบโกยกันแล้ว

            ถ้ารัฐบาลอยากกู้หน้าคืน หลังแก้ปัญหาน้ำท่วมล้มเหลวไม่เป็นท่า ก็ควรปราบทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว ที่ได้ชื่อว่าเป็น Classic Case ของประเทศให้ได้ ก็จะน่าเรียกความศรัทธาของประชาชนกลับมาได้บ้าง...บางส่วน!!

                                
                                      ฟันนี่เอส

                                     17 พ.ย. 54

                                                                (ขออภัยบทความย้อนหลัง เนื่องจากภาวะน้ำท่วม)

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น