วันจันทร์ที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2554

ไม่...เดินตามรอยเท้าพ่อ

 






            เคยได้ยินว่า “พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดช” หรือ “พ่อหลวง” ของปวงชนชาวไทย ทรงมีพระปรีชาสามารถในเรื่องน้ำมากที่สุดของประเทศไทย

            เพราะตั้งแต่เริ่มต้นครองราชย์ พระองค์ทรงอุทิศชีวิตในการศึกษา ค้นคว้า และแก้ปัญหาน้ำให้กับคนไทย โดยเฉพาะเกษตรกรในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ ได้มีน้ำกินน้ำใช้ และน้ำทำพืชสวนไร่นา

            พระองค์ยังทรงวางแผนบริหารจัดการน้ำในประเทศไม่ให้เกิดภาวะแห้งแล้ง และน้ำท่วม โดยทรงมีพระราชดำริสร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ำ ฝายน้ำล้น แก้มลิง หลายต่อหลายแห่ง รวมถึงขุดลอกขยายคลอง ซึ่งทำให้ประเทศไทยมีน้ำกินน้ำใช้อย่างอุดมสมบูรณ์ในช่วงหน้าแล้ง และไม่เกิดมหาอุทกภัยในช่วงหน้าน้ำเหมือนขณะนี้

            แม้ในปัจจุบัน ทั้งที่พระองค์ทรงมีพระอาการประชวร และมีพระชนมายุมากแล้ว ก็ยังไม่ทรงคลายความห่วงใยประเทศไทย และคนไทยที่จะต้องเผชิญกับปัญหาภัยธรรมชาติ

            แต่น่าเสียดาย ที่ฝ่ายบริหารของประเทศ และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการน้ำในช่วงหลายปีที่ผ่านมา มองไม่เห็นอย่างที่พระองค์ท่านทรงเห็น และตามไม่ทันความคิดของพระองค์ท่าน
   หนำซ้ำยังเพิกเฉยกับกระแสพระราชดำรัสในการแก้ปัญหาน้ำ ที่พระราชทานไว้เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.2538 ซึ่งปีนั้นเกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ

           พระราชดำรัสในครั้งนั้น สรุปความได้ว่า การแก้ปัญหาน้ำท่วมในกรุงเทพฯ และปริมณฑลนั้น จะต้องมีการสร้างคันกั้นน้ำโดยปรับปรุงแนวถนนเดิม จัดให้มีพื้นที่สีเขียวเพื่อกันการขยายตัวของเมือง และเพื่อแปรสภาพให้เป็นทางระบายน้ำ ขยายคูคลองเท่าที่มีอยู่ สร้างสถานที่เก็บน้ำตามจุดต่างๆ และขยายช่องทางรับน้ำที่ผ่านทางรถไฟ และทางหลวง โดยใช้ “แก้มลิง”

          โดยโครงการแก้มลิงที่พระองค์ตรัสถึงนั้น หมายถึง โครงการแก้มลิงฝั่งตะวันตก และฝั่งตะวันออกของแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อใช้เป็นพื้นที่รับน้ำระบายออกสู่ทะเลด้านจังหวัดสมุทรสาคร ซึ่งจะมีทั้งโครงการแก้มลิงแม่น้ำท่าจีนตอนล่าง โครงการแก้มลิงคลองมหาชัย-คลองสนามชัย และโครงการแก้มลิงคลองสุนัขหอน

           แต่จนถึงปัจจุบัน กระแสพระราชดำรัสครั้งนั้น ยังไม่เกิดผลเป็นรูปธรรมเท่าที่ควร แก้มลิงบางโครงการยังเป็นเพียงการศึกษาอยู่ในเศษกระดาษเท่านั้น สถานที่ที่จะก่อสร้างแก้มลิงบางแห่งก็ถูกชุมชนรุกล้ำ สร้างที่อยู่อาศัย ตึกรามบ้านช่อง ปิดกั้นทางเดินน้ำไปจนหมด

           จึงช่วยไม่ได้เลยที่จะเกิดน้ำท่วมใหญ่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล รวมถึงจังหวัดต่างๆ ของประเทศอย่างในปัจจุบัน จนสร้างความสูญเสียมหาศาลให้กับประชาชน และประเทศชาติ ที่สำคัญทำให้ชาวต่างชาติไม่มั่นใจประเทศไทย และไม่กล้าเข้ามาลงทุน เพราะเกรงปัญหานี้จะเกิดขึ้นซ้ำอีก ขณะที่คนไทย ก็ยังอกสั่นขวัญแขวน ไม่มั่นใจเหมือนกัน

            ”ฟันนี่เอส” อยากเตือนสติผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการบริหารจัดน้ำ ให้น้อมรับกระแสพระราชดำรัสใส่เกล้า และถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัด อย่ามัวแต่หลงเชื่อคำพูดนักการเมือง ที่ตลอดทั้งชีวิตแทบไม่เคยทำประโยชน์เพื่อแผ่นดินเลย นอกจากประโยชน์ตัวเอง... ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้


ฟันนี่เอส

                                                           8 ธ.ค.54

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น