วันอังคารที่ 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

รัฐบาลไม้หลักปักขี้เลน









            รัฐบาลน่าจะมีปัญหาเรื่องการตัดสินใจเสียแล้ว! ดูเรื่องการรับจำนำข้าวเป็นตัวอย่าง ที่กลับไปกลับมา เป็นไม้หลักปักขี้เลน พอโดนฝ่ายนี้กระทุ้งทีก็ปรับเปลี่ยนที โดนฝ่ายนั้นกระทุ้งอีกทีก็เปลี่ยนอีกที เอาแน่เอานอนอะไรไม่ได้เลย
           พอถูกพรรคฝ่ายค้าน โจมตีโครงการรับจำนำข้าว ทำให้รัฐบาลขาดทุนมหาศาล และยังขายข้าวสารออกจากสต๊อกไม่ได้ จนแทบไม่มีเงินมาเดินหน้าโครงการต่อ จู่ๆ รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจและขุนคลัง ก็ประกาศก่อนใครว่า อาจลดราคารับจำนำข้าวเปลือกเจ้าให้ต่ำกว่าตันละ 15,000 บาท  
โดยอ้างเหตุผลข้างๆ คูๆ สถานการณ์โลกเปลี่ยนไปจากการประกาศนโยบายรับจำนำครั้งแรก (ราคาข้าวโลกลดลงมาก จากอินเดีย และเวียดนาม แข่งกันขายตัดราคา จนข้าวไทยขายไม่ออก) รวมถึงเพื่อลดการขาดทุน และรักษาวินัยทางการเงินการคลัง
ไม่กี่วันให้หลัง มีการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) พิจารณาราคารับจำนำ สุดท้าย มีมติให้ลดราคาลงเหลือตันละ 12,000 บาท และจำกัดวงเงินไม่เกินรายละ 5 แสนบาท

แต่พอชาวนาไม่พอใจ เรียกร้องให้กลับไปที่ตันละ 15,000 บาทเท่าเดิม กขช.ก็กุลีกุจอ เรียกประชุมด่วน และสุดท้ายก็มี เซอร์ไพรส์นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง เป็นประธาน ประกาศเปรี้ยงอีกครั้งว่า กลับมารับจำนำที่ราคาเดิม 15,000 บาท







อ้างเพื่อช่วยเหลือชาวนา ที่เหลืออีกเพียง 2 แสนราย ให้มีรายได้สูงขึ้น ทัดเทียมชาวนาที่จำนำไปแล้วตันละ 15,000 บาท และมีข้าวเปลือกที่รอการเก็บเกี่ยวไม่ถึง 3 ล้านตัน ที่สำคัญ รมต.ใหม่กระทรวงพาณิชย์ จะเร่งรัดขายข้าวให้ได้มากที่สุด ตั้งเป้า 3 เดือนนี้จะขายได้ให้ถึงเดือนละ 1 ล้านตัน จากปกติที่ขายได้ราว 5-6 แสนตันเท่านั้น รัฐบาลจึงน่าจะมีเงินเพียงพอมาใช้ในโครงการ
ส่งผลให้นายกิตติรัตน์ กลายเป็น ฮีโร่ ของชาวนาขึ้นมาในบัดดล ทั้งๆ ที่เป็นคนบอกให้ลดราคาลงเป็นคนแรก











การกลับกลอกเช่นนี้ ทำให้ภาพลักษณ์รัฐบาล ย่ำแย่ลงไปอีก แม้เปลี่ยนตัวรัฐมนตรีแล้ว เพราะทำให้ประชาชนเห็นว่า รัฐบาลไม่มั่นคงในนโยบาย ไม่เด็ดขาดในคำพูด และการตัดสินใจ ขาดความน่าเชื่อถือ (ไม่ว่าใครจะอยู่เบื้องหลังการตัดสินใจแบบนี้ หรือมีจุดประสงค์อื่นใดแอบแฝงก็ตาม)
 นอกจากนี้ ประชาชนยังรู้สึกอีกว่า โครงการรับจำนำข้าวที่ขาดทุนมหาศาล และถูกรุมวิพากษ์วิจารณ์ว่าทุจริตมโหฬาร พอเอาเข้าจริง รัฐบาลยังเดินหน้าต่อแบบไม่ฟังเสียงใคร ไม่คิดถึงความเสียหายของประเทศ และประชาชน ทั้งที่เงินที่ใช้เป็นภาษีจากประชาชนทั้งประเทศ
ที่สำคัญ รัฐบาลยังไม่คิดปรับปรุงโครงการให้ดีขึ้น ไม่เอาจริงเอาจังกับการปิดช่องทุจริต โดยเฉพาะจากกลุ่มนักการเมือง ที่กอบโกยผลประโยชน์แบบไม่อายใคร ทั้งที่โครงการรับจำนำข้าว เป็นโครงการที่ดี มีประโยชน์ ทำให้เม็ดเงินตกถึงมือชาวนาได้
ทั้งหมดนี้เพียงแค่เตือนสติรัฐบาลว่า ก่อนกำหนดนโยบายใดๆ ควรคิดให้ละเอียดรอบคอบ มองโลกในแง่ร้ายไว้ก่อน และหาทางออกไว้ล่วงหน้า เพื่อจะได้กำหนดนโยบายที่ไม่สุดโต่งเกินไป จนประเทศชาติประชาชนเสียหาย และต้องมาหาทางลงในภายหลัง
คนทั้งประเทศอยากเห็นรัฐบาลมีความสง่างาม และเป็นมืออาชีพมากพอในการบริหารประเทศให้เจริญก้าวหน้าแบบไม่อายใครในโลก



ฟันนี่เอส



                                                            4 ก.ค.56

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น