วันพุธที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ทุจริต:ธรรมดาที่ไม่ธรรมดา!

 






          
             แม้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี ได้ประกาศให้การป้องกันและปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน เป็นวาระแห่งชาติมาได้ 2 ปีแล้ว นับตั้งแต่เข้ามาบริหารประเทศ โดยทุกภาคส่วนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหา ดูเหมือนว่า ปัญหานี้ไม่ได้ทุเลาลง แต่กลับทวีความรุนแรงมากขึ้น

             เห็นได้จาก ข่าวตามสื่อต่างๆ ยังมีการโกงกินเป็นว่าเล่น ที่สำคัญ คนไทยยังรับได้กับการทุจริต และเห็นเป็นเรื่องธรรมดา เพื่ออำนวยความสะดวกให้การทำธุรกิจ หรือธุรกรรมต่างๆ สำเร็จราบรื่น

             ด้วยเหตุนี้ การคอร์รัปชัน จึงยังอยู่คู่กับสังคมไทยแบบแยกกันไม่ออก!!







             ส่วนข้อมูลทางวิชาการ จากผลสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย เดือนมิ.ย.56 ที่ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดทำขึ้นโดยสำรวจกลุ่มตัวอย่าง 2,400 ตัวอย่างในกลุ่มประชาชน, ผู้ประกอบการ/ภาคเอกชน และข้าราชการ/ภาครัฐ ช่วยตอกย้ำให้เห็นความรุนแรงด้วย

             โดยดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันไทย เดือนมิ.ย.56 อยู่ที่ 41 คะแนน จากเต็ม 100 คะแนน (0 คะแนนหมายถึงรุนแรงที่สุด และ 100 คะแนนไม่คอร์รัปชัน)  สูงกว่าสำรวจครั้งก่อนเมื่อเดือนธ.ค.55 ซึ่งอยู่ที่ 39 คะแนน ดัชนีฯปัจจุบัน 40 คะแนน สูงขึ้นจาก 38 คะแนน และดัชนีฯแนวโน้ม 42 คะแนน ไม่เปลี่ยนแปลง

   รูปแบบการทุจริตมีทั้งให้สินบน ของกำนัล รางวัล, ใช้ตำแหน่งทางการเมืองเอื้อประโยชน์พรรคพวก, จ่ายเงินเพื่อให้ได้ผลประโยชน์, ทุจริตจัดซื้อจัดจ้าง หรือฮั้วประมูล, ทุจริตเชิงนโยบายโดยผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เป็นต้น

  แต่สิ่งที่น่ากลัว และเสียหายที่สุดคือ ผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจกับภาครัฐต้องจ่ายเงินใต้โต๊ะให้แก่ข้าราชการ นักการเมืองเพื่อให้ได้สัญญา โดยจ่ายมากถึง 25-35% ของวงเงินงบประมาณ

   เมื่อคิดเล่นๆ ในปี 56 รัฐมีงบประมาณ ค่าครุภัณฑ์ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง และงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ รวม 942,608 ล้านบาท หากทุจริต 25%  คิดเป็นเม็ดเงิน 235,652 ล้านบาท หรือ 9.82% ต่องบรายจ่ายปี 56 ที่ 2.4 ล้านล้านบาท และคิดเป็น 1.88% ต่อจีดีพีปี 56 ที่ 12.54 ล้านล้านบาท





  แต่ถ้าทุจริต 30% คิดเป็นเม็ดเงิน 282,782.4 ล้านบาท หรือ 11.78% ต่องบรายจ่าย และ 2.25% ต่อจีดีพี และถ้าทุจริตสูงถึง 35% เม็ดเงินที่รัฐเสียหายจะสูงถึง 329,912.8 ล้านบาท หรือ 13.75% ต่องบรายจ่าย และ 2.63% ต่อจีดีพี

  โครงการที่มีโอกาสทุจริตมากสุด ไม่พ้นโครงการรับจำนำข้าว, โครงการ 2 ล้านล้านบาท, โครงการบริหารจัดการน้ำ 350,000 ล้านบาท, โครงการระดับท้องถิ่น และโครงการระดับจังหวัด ที่สำคัญ ผู้ตอบไม่เชื่อ รัฐบาลจะลดคอร์รัปชันได้จริงตามที่ประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ

  ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ!ว่าไทยโกงกินกันมหาศาลขนาดนี้ เงินกว่า 3 แสนล้านบาท มากกว่างบที่รัฐใช้รับจำนำข้าวเปลือก 1 ฤดูกาลเสียอีก!! ถ้าไม่มีการรั่วไหลไปเข้ากระเป๋าใคร เม็ดเงินนี้น่าจะสร้างความเจริญ ก้าวหน้าให้กับประเทศได้มากกว่าที่เป็นอยู่

  การแก้สันดานคนไทยให้เลิกยอมรับได้กับคอร์รัปชัน และเลิกจ่ายใต้โต๊ะ ไม่ได้อยู่ที่ใครคนใดคนหนึ่ง แต่ทุกคนในสังคมต้องรวมพลังต่อต้านทุจริต และกดดันคนทุจริตให้เลิกทำ แม้เป็นเรื่องยากกว่า งมเข็มในมหาสมุทร แต่ต้องเริ่มทำได้แล้วตั้งแต่วันนี้



ฟันนี่เอส


                                                                       1 ส.ค.56

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น