ดูเหมือนว่าปีนี้จะเป็นอีกปีหนึ่งที่หนักหนาสาหัส
สำหรับอุตสาหกรรมกุ้งของไทย เพราะเกิดโรคตายด่วน (EMS : Early Mortality Syndrome)
ระบาดอย่างหนัก และยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้จนถึงขณะนี้
ทำให้กุ้งเลี้ยงตายก่อนวัยอันควร ผลผลิตลดลงมาก
จนแทบไม่มีส่งออก และบริโภคในประเทศ ส่งผลต่อเนื่องให้ปริมาณ
และมูลค่าส่งออกกุ้งไทยลดฮวบ คาดว่า ปีนี้มูลค่าส่งออกกุ้งสดจะลดลงมากถึง 30%
มิหนำซ้ำ เมื่อเร็วๆ นี้
สำนักงานการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐฯ (ITC
: The U.S. International Trade
Commission) ยังได้ประกาศผลการไต่สวนเบื้องต้นเพื่อใช้มาตรการตอบโต้การอุดหนุน
(CVD : Countervailing Duty) สินค้ากุ้งสดแช่เย็นแช่แข็งของไทยอีก
โดยได้ประกาศจัดเก็บภาษี CVD เบื้องต้นในสินค้าดังกล่าวของไทย
ที่ส่งออกไปสหรัฐฯในอัตรา 2.09% ซึ่งยังไม่รวมภาษีอื่นๆ ที่จะต้องเสียให้กับสหรัฐฯอีก
ทั้งภาษีนำเข้าในอัตราสูง และภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (AD : Anti-Dumping) ที่ถูกสหรัฐฯเรียกเก็บมาแล้วกว่า 5 ปี
สาเหตุที่ ITC เปิดไต่สวนเพื่อใช้มาตรการ CVD เพราะได้รับการร้องเรียนจากผู้เลี้ยงกุ้งในสหรัฐฯว่าหน่วยงานต่างๆ
ของรัฐบาลไทยมีการใช้มาตรการอุดหนุนสินค้ากุ้ง 13 ข้อกล่าวหา
เพื่อให้กุ้งไทยมีต้นทุนการส่งออกต่ำ
และได้เปรียบการแข่งขันเหนือกุ้งที่ผลิตได้ภายในสหรัฐฯ
หลังจากนั้น ITC จึงได้เปิดการไต่สวน และพบว่า
ทั้ง 13 ข้อกล่าวหา มีเพียง 3 ข้อกล่าวหาเท่านั้นมีเป็นความจริง ได้แก่
ผู้ส่งออกกุ้งไทยที่เสียภาษีส่งออก จะได้รับเงินคืนจากกรมสรรพากรในอัตรา 0.13%, สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ)
ได้ส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมกุ้งไทย ทำให้ต้นทุนอุตสาหกรรมกุ้งลดลง 2% และบีโอไอยังลดภาษีนำเข้าเครื่องจักรให้กับอุตสาหกรรมกุ้งไทยด้วย
แต่ไม่ได้มีเพียงกุ้งสดไทยเท่านั้น ที่ถูกเรียกเก็บภาษี CVD ยังมีจากประเทศคู่แข่งสำคัญอีก โดยมาเลเซีย
ถูกเรียกเก็บสูงสุดที่ 62.74% อินเดีย 10.87% เวียดนาม 6.07% ขณะที่อินโดนีเซีย และเอกวาดอร์ ถูกไต่สวนเช่นกัน
แต่ไม่พบมีการอุดหนุน จึงไม่ถูกเรียกเก็บภาษี CVDดำ)
อย่างไรก็ตาม การประกาศใช้มาตรการ CVD กับกุ้งสดจากไทย ยังไม่สิ้นสุดกระบวนการ
เพราะเป็นเพียงการประกาศเรียกเก็บภาษีในขั้นต้นเท่านั้น
สหรัฐฯจะประกาศผลการไต่สวนขั้นสุดท้ายวันที่ 14 ส.ค.นี้ แต่ระหว่างวันที่ 10-14
มิ.ย.นี้ สหรัฐฯจะเปิดรับข้อมูล ข้อเท็จจริง
จากประเทศที่ถูกใช้มาตรการขั้นต้นอีกครั้ง
ดังนั้น กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
จะร่วมกับผู้ส่งออกไทย ที่ถูกสหรัฐฯกำหนดให้ตอบแบบสอบถาม จะเร่งส่งข้อมูลต่างๆ
ไปให้สหรัฐฯ ประกอบการพิจารณา
โดยหากสามารถชี้แจงได้ว่า ไทยไม่ได้อุดหนุนจริง
และการประกาศผลขั้นสุดท้าย สหรัฐฯเรียกเก็บภาษี CVD ต่ำกว่า 2% อุตสาหกรรมกุ้งไทยจะไม่ต้องถูกเรียกเก็บภาษีดังกล่าวอีกเลย
แต่หากการประกาศผลขั้นสุดท้าย ภาษี CVD กุ้งไทยเท่าเดิม หรือมีการเรียกเก็บเพิ่มขึ้น
ผู้ส่งออกกุ้งไทยลำบากแน่นอน
เพราะราคากุ้งไทยที่ส่งไปขายในตลาดสหรัฐฯจะสูงขึ้นมาก
ทำให้สูญเสียความสามารถในการแข่งขัน และสูญเสียตลาดได้ในอนาคต
ทำให้คนในวงการอุตสาหกรรมกุ้งทั้งระบบเจ๊งไปตามๆ กันแน่นอน
คงต้องฝากความหวังไว้ที่กรมการค้าต่างประเทศ
และบริษัทที่ตอบแบบสอบถามสหรัฐฯซะแล้ว!!
ฟันนี่เอส
6 มิ.ย.56
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น