วันอังคารที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2556

รัฐบาลเจ๊งจำนำข้าว!










            ในที่สุด! รัฐบาลต้องแพ้ภัยนโยบาย ประชามหานิยมแบบสุดขั้วของตัวเอง เพราะโครงการรับจำนำข้าว ที่กำหนดราคารับจำนำสูงโต่ง นำตลาดหลายเท่าตัว และรับจำนำแบบไม่จำกัดปริมาณ เพียงเพื่อต้องการให้ชาวนามีรายได้เท่ากับแรงงานขั้นต่ำวันละ 300 บาทนั้น

            ทำให้ความมั่นคงของรัฐบาลซวนเซ เพราะมีแต่ข่าวลบๆ เรื่องร้ายๆ เกิดขึ้นกับโครงการนี้ไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะหลังจากพรรคฝ่ายค้านสาวไส้ออกมาแฉว่ารัฐบาลขาดทุนจากโครงการนี้ราว 260,000 ล้านบาท มีการทุจริตมโหฬาร มีข้าวเน่าโผล่มากมาย มีการเผาโกดังกลบทุจริตข้าวเน่า หรือสต๊อกลม

            อีกทั้งคนไทยยังได้เห็นรัฐบาลใช้เงินเกินตัว และไร้ประสิทธิภาพ เพราะใช้เงินในโครงการรับจำนำข้าวนาปีปี 54/55 นาปรังปี 55 และปี 55/56 ทั้ง 2 รอบไปแล้วราว 600,000 ล้านบาท แต่ได้คืนกลับมาเพียง 120,000 ล้านบาท แม้ยังมีข้าวในสต๊อกที่รอการขายอยู่อีกมาก แต่ไม่รู้จะได้เงินกลับคืนมาคุ้มทุนหรือไม่!













นอกจากนี้ ยังทำให้ข้าวในสต๊อกของรัฐบาลขายแทบไม่ได้ เพราะราคาขายสูงกว่าคู่แข่ง ขณะที่เอกชนก็ขายไม่ออก เพราะลูกค้าซื้อจากคู่แข่งกันหมด ทำให้ไทยสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในหลายประเทศ

ส่งผลให้รัฐบาลนั่งไม่ติด ต้องคิดหาทางแก้ปัญหา และสุดท้ายคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) ที่นายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ เป็นประธานได้ประชุมนัดพิเศษเมื่อวันที่ 18 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น

มีมติให้ลดราคารับจำนำข้าวเปลือกนาปรังปี 56 ลงเหลือตันละ 12,000 บาท จาก 15,000 บาท ที่ความชื้น 15% มีผลตั้งแต่ 1 ก.ค.นี้ และยังจำกัดวงเงินชาวนาในการนำข้าวมาจำนำไม่เกินรายละ 500,000 บาท มีผล 20 มิ.ย.56 ส่วนข้าวเปลือกนาปี 56/57จะพิจารณาราคาที่เหมาะสมอีกครั้ง

            สาเหตุที่ต้องลดราคาลง นายบุญทรง ยืนกระต่ายขาเดียวว่า รัฐบาลไม่ถังแตก ยังมีเงินที่จะทำโครงการอยู่ตามที่ครม.ได้อนุมัติไว้รวมราว 500,000 ล้านบาท แต่เพื่อรักษาวินัยทางการเงินการคลัง และทำให้กระทรวงการคลังทำงบประมาณสมดุลได้ภายในปี 2560

            ไม่ว่าจะอ้างเหตุผลใดก็ตาม แต่สุดท้าย คนไทยได้เห็นแล้วว่า นโยบายรับจำนำข้าวของรัฐบาลนี้ เป็นนโยบายที่ผิดพลาด เพราะมีแต่ผลเสียมากมาย แม้จะมีส่วนทำให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ 0.5-1% ในปี 55 จากเงินที่ชาวนาใช้จ่ายและหมุนในระบบเศรษฐกิจได้หลายรอบ

            ที่สำคัญ ไทยไม่ได้ปลูกข้าวได้ประเทศเดียวในโลก ดังนั้น การคาดการณ์ว่า ไทยจะฮุบปริมาณข้าวไว้ในมือจำนวนมาก เพื่อจะขายในตลาดโลกได้แบบมีรายได้เข้าประเทศเป็นกอบเป็นกำนั้น ถือว่าเป็นการคาดการณ์ที่ผิดถนัด!!

            เพราะปริมาณข้าวในโลกล้นเหลือ ทำให้อินเดีย และเวียดนาม แข่งกันลดราคาขาย จนข้าวไทยขายไม่ได้ ส่งผลต่อเนื่องมาถึงโครงการรับจำนำ เมื่อข้าวในสต๊อกมาก แต่ขายออกได้น้อย ก็มีเงินมาใช้คืนคลังได้น้อย รัฐบาลขาดทุน และเป็นภาระหนักอึ้งต่องบประมาณประเทศ







            แม้จะมีเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่ารัฐบาลทำนโยบายผิดพลาด แต่การยอมรับความผิดพลาด และแก้ไขทำในสิ่งที่ถูกต้อง สังคมควรจะให้โอกาสอีกครั้ง เพราะยังมีชาวนาอีกมากที่ต้องการความช่วยเหลือ แต่ควรปิดช่องโหว่ไม่ให้ทุจริตซ้ำซาก จนสังคมรับไม่ได้เหมือนที่ผ่านมาด้วย

        เรื่องฉาวโฉ่เหม็นเน่าของการรับจำนำข้าวไม่ได้เกิดขึ้นกับรัฐบาลนี้เป็นครั้งแรก แต่เกิดขึ้นกับทุกรัฐบาล อยู่ที่ว่าใครจะสาวไส้ใครได้เก่งกว่ากันก็เท่านั้น
           



                                                                                        ฟันนี่เอส



                                                                                                                       20 มิ.ย.56


                                          ...................................................................








ให้ความเห็นเรื่อง "รับจำนำข้าว"
รายการ เก็บข่าวมาเล่า FM 102
18 มิ.ย.2556





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น