วันจันทร์ที่ 10 มิถุนายน พ.ศ. 2556

ยังไม่เสร็จนาจะฆ่าโคถึกซะแล้ว

     








            หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา สังคมไทยเฝ้ารอคอยคำตอบจาก “นายบุญทรง เตริยาภิรมย์” รมว.พาณิชย์ อย่างใจจดใจจ่อว่าโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลชุดนี้ ขาดทุนมากถึง 260,000 ล้านบาทจริงหรือไม่

ตามที่คณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำสินค้าเกษตร กระทรวงการคลังได้ประเมินไว้ และพรรคประชาธิปัตย์หยิบขึ้นมาตีแผ่ให้สังคมได้รับรู้ผลการทำงานของรัฐบาล และการใช้งบประมาณรับจำนำข้าวว่าคุ้มค่าเพียงไร

แต่หลังฟังการแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริง เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่อุตส่าห์ยกพลมานั่งแถลงข่าวกันเป็นแถว ตั้งแต่นายบุญทรง นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ นายทนุศักดิ์ เล็กอุทัย รมช.คลัง นายนายสุพัฒน์ เอี้ยวฉาย ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ฯลฯ  ก็ต้องผิดหวังอย่างรุนแรง






เพราะข้อมูลที่แต่ละคนหยิบขึ้นมาชี้แจง ไม่มีอะไรแปลกใหม่ไปจากที่รู้ๆ กันอยู่แล้ว เช่น โครงการรับจำนำไม่ได้ขาดทุนมากถึง 260,000 ล้านบาท, โครงการรับจำนำข้าวทำให้ชาวนามีรายได้เพิ่มขึ้น ช่วยสนับสนุนให้จีดีพีไทยเติบโตตามเป้าหมาย หรือข้อมูลที่คณะอนุกรรมการฯทำมา ไม่รู้คิดอย่างไร และยังไม่ได้ผ่านความเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) จึงยังเชื่อถือไม่ได้ ฯลฯ

แม้นักข่าว ช่วยกันรุกตั้งคำถามอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน แต่ก็ไม่สามารถทำให้ผู้ตอบคำถาม โดยเฉพาะนายบุญทรง และนายณัฐวุฒิ เคลียร์ชัดได้สักประเด็น มิหนำซ้ำ ในบางคำถาม ยังตอบแบบแถๆ เอาสีข้างเข้าถูเสียอีก

ยังดีที่การแถลงข่าวครั้งนี้ มีการถ่ายทอดสดโดย “เนชั่น ทีวี” จึงทำให้ประชาชนได้เห็นถึง “พฤติกรรม” ของคนที่เป็นรัฐมนตรีว่า มักทำอะไรลับลมคมใน และไม่โปร่งใสในสายตาประชาชน ผู้เสียภาษีให้รัฐบาลเอาไปถลุงเล่น และเข้าพกเข้าห่อตัวเอง แทนที่จะใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า

มีการตั้งคำถามกันนานแล้วว่า ทำไมกระทรวงพาณิชย์ ไม่พูดความจริงว่า โครงการรับจำนำขาดทุนเท่าไร คุ้มค่ากับงบประมาณที่เสียไปหรือไม่ ข้าวที่ขายแบบจีทูจีขายให้ประเทศใดบ้าง ราคาเฉลี่ยเท่าไร เป็นต้น






เพื่อให้สังคมได้รู้ความจริงว่า การใช้เงินกว่า 600,000 ล้านบาทรับจำนำข้าวในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา ประชาชน และประเทศชาติเสียหายเท่าไรแล้ว นอกเหนือจากผลประโยชน์ที่ทำให้จีดีพีเติบโต ที่สำคัญคุ้มค่ามากพอที่รัฐบาลจะยังเดินหน้ารับจำนำราคาสูงๆ และไม่จำกัดปริมาณอีกหรือไม่

แต่ตราบใดที่ยังไร้คำตอบ ตำแหน่ง “รมว.พาณิชย์” สั่นคลอนแน่ เพราะตอนนี้กลายเป็นจุดอ่อน ที่ทำให้ภาพลักษณ์รัฐบาลเสียหาย และรัฐบาลพร้อมปลดทิ้งทุกเมื่อ เพื่อทำให้ภาพลักษณ์กลับมาดีขึ้น

น่าจับตาที่ชื่อของ “นายวราเทพ รัตนากร” รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ปรากฏเป็นชื่อแรกที่จะมาเป็น “รมว.พาณิชย์” ทุกครั้งที่มีข่าวโยกย้าย และครั้งนี้ก็เช่นกัน แม้ยังไม่มีข่าวโยกย้าย แต่นายกรัฐมนตรี ไว้วางใจให้ นายวราเทพ ซึ่งไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้าวเลย เป็นผู้ชี้แจงเรื่องข้าวต่อสาธารณะ เหมือนเป็นการ “ดิสเครดิต” นายบุญทรง อย่างเห็นได้ชัด

“นายบุญทรง” คงต้องได้แต่ทำไจ โทษใครไม่ได้ ต้องโทษตัวเอง ที่ปกป้องคนที่อยู่เบื้องหลัง โดยไม่คิดถึงชื่อเสียงตนเอง และวงศ์ตระกูลแม้แต่น้อย นี่ขนาดยังไม่เสร็จนา แต่คิดจะฆ่าโคถึกซะแล้ว


ฟันนี่เอส


                                                                       13 มิ.ย.56

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น