วันอังคารที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2555

นี่ล่ะประเทศไทย








            ทุกวันนี้ ประเทศไทยยังได้ชื่อว่าเป็นแหล่งผลิต และขายสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา มากที่สุดอีกประเทศหนึ่งในโลก ถึงขนาดที่นักท่องเที่ยวต่างชาติ รู้จักแหล่งซื้อขายสินค้าก๊อปปี้ (ของปลอมทำเลียนแบบสินค้าแบรนด์เนม) ชื่อดังเป็นอย่างดี

    เพราะเจ้าของสิทธิ์ชาวต่างประเทศ ได้ประจานชื่อแหล่งขายสินค้าเหล่านี้ผ่านทางเว็บไซต์เป็นประจำทุกปี ซึ่งรวมถึงแหล่งขายของปลอมในประเทศอื่นๆ ด้วย

            ในเมืองไทย สาเหตุการละเมิดน่าจะมาจาก คนไทยไม่มีเงินมากพอซื้อสินค้าลิขสิทธิ์ที่มีราคาแพง รวมถึงของปลอม ผลิตได้รวดเร็ว ทันใจผู้ซื้อ อย่างหนังฮอลลีวูด ที่คนไทยได้ดูพร้อมคนอเมริกัน จากเดิมกว่าจะมาฉายเมืองไทยก็ 3 เดือนผ่านไปแล้ว








            เมื่อก่อน การขายสินค้าละเมิด วางขายกันหน้าร้าน พ่อค้าแม่ค้าเชิญชวนลูกค้าให้เข้ามาเลือกซื้ออย่างไม่เกรงกลัวกฎหมาย ทั้งที่เป็นของเถื่อน ของปลอม ของผิดกฎหมาย

            ที่เป็นเช่นนี้ คนในวงการระบุว่า มีการ “จ่าย” ให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจในท้องที่ และส่วนกลางในทุกระดับชั้น

            การกระทำเช่นนี้ สร้างความเสียหายให้กับเจ้าของสิทธิ์เป็นอย่างมาก เพราะการที่ผู้ซื้อนิยมซื้อของปลอมราคาถูกอย่างกว้างขวาง ทำให้ของจริง ราคาแพงขายไม่ออก ที่สำคัญทำให้เจ้าของสิทธิ์ และผู้สร้างสรรค์ผลงานที่เป็นคนไทย หมดกำลังใจสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ออกสู่ตลาด ส่งผลให้อุตสาหกรรมหนัง และเพลงของไทยไม่พัฒนาเสียที

    แต่ปัจจุบันนี้ เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยี การขายของเถื่อนหน้าร้านค้าเริ่มลดลง เพราะผู้ค้าหันมาขายของบนโลกออนไลน์กันมากขึ้น!!

   เพราะสามารถทำได้โดยเสรี เนื่องจากกฎหมายลิขสิทธิ์ยังไม่ครอบคลุมการขายของเถื่อนบนอินเตอร์เน็ต แต่การขายของหน้าร้าน เมื่อถูกจับได้ สินค้าเหล่านั้นจะกลายเป็นของกลางมัดตัวผู้กระทำผิดทันที  






   ล่าสุด กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ ได้ยกร่างแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายลิขสิทธิ์ ให้ครอบคลุมการขายสินค้าละเมิดทางอินเตอร์เน็ต และการป้องกันการแอบถ่ายในโรงภาพยนตร์ ซึ่งจะเสนอให้คณะรัฐมนตรี พิจารณาเห็นชอบในเร็วๆ นี้ จากนั้นจะเข้าสู่กระบวนการตามขั้นตอนต่อไป

   แต่ในระยะเร่งด่วนนี้ ได้ประสานกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) บล็อกหน้าเว็บไซต์ที่ขายสินค้าละเมิด หรือเปิดให้การละเมิด ในระยะต่อไปอาจพิจารณาบล็อกทั้งเว็บไซต์ด้วย

   การทำแบบนี้ นอกจากหวังให้การละเมิดในประเทศน้อยลงแล้ว ยังสนองความต้องการสหรัฐฯ ที่แต่ละปีเสียหายมูลค่ามหาศาลจากการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาสหรัฐฯในไทย จนต้องขึ้นบัญชีไทยถูกจับตามองเป็นพิเศษด้านทรัพย์สินทางปัญญา และหวังให้สหรัฐฯปลดออกจากบัญชีนี้ในปีนี้

  แต่ “ฟันนี่เอส” ว่าการแก้ปัญหาเลวร้ายที่เกิดขึ้นในสังคมไทย ควรแก้ที่ต้นตอคือ สันดานไม่ดีของคนไทยก่อนจะดีกว่า แม้จะใช้เวลานาน.. แต่การเริ่มต้นวันนี้ก็ยังไม่สายเกินไป

        

                       ฟันนี่เอส


                                      2 ก.พ.55

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น