วันอังคารที่ 6 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ทวงคืนตลาดข้าวไทย











                 นับตั้งแต่รัฐบาลชุดนี้ ดำเนินโครงการรับจำนำข้าวเปลือก โดยตั้งราคารับจำนำสูงถึงตันละ 20,000 บาทสำหรับข้าวเปลือกหอมมะลิ และตันละ 15,000 บาทสำหรับข้าวเปลือกเจ้า ก่อให้เกิดผลดีและผลเสียมากมายหลายด้าน

                 โดยผลดีที่เห็นชัดเจนที่สุด ตามที่รัฐบาลกล่าวอ้างคือ ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนาดีขึ้น สามารถปลดภาระหนี้สินได้บางส่วน จากการขายข้าวได้ราคาสูงขึ้น

                 แต่ผลเสีย เช่น เกิดการทุจริต ทำให้รัฐบาลมีค่าใช้จ่ายมหาศาลในการเก็บรักษาข้าวในสต๊อก แม้จะขายได้ตามราคาตลาด หรือใกล้เคียงกัน แต่ก็ยังต่ำกว่าราคารับจำนำ ทำให้ต้นทุนผู้ส่งออกสูงขึ้น จนในบางตลาดไม่สามารถแข่งขันกับคู่แข่ง ทั้งเวียดนาม อินเดีย ปากีสถาน ได้ นำไปสู่การเสียส่วนแบ่งตลาดในตลาดสำคัญๆ






     โดยเฉพาะฮ่องกง ที่แต่ละปีนำเข้าข้าวคุณภาพดี อย่างข้าวหอมมะลิไทยหลายแสนตัน แต่ไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ การนำเข้าลดลงมาก!!

                 จากข้อมูลของสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ณ ฮ่องกง ประเทศฮ่องกง พบว่า ในปี 50 สัดส่วนการนำเข้าข้าวไทยของฮ่องกงมากถึง 90% ของการนำเข้าจากทั่วโลก แต่ในปี 55 ลดลงเหลือ59.6% และเหลือ 56.4% ในปีถัดมา ขณะที่เวียดนาม ที่ในปี 50 มีสัดส่วนเพียง 0.4% แต่ในปี 55 เพิ่มขึ้นเป็น 25.8% และเพิ่มเป็น 28.7% ในปี 56 ส่วนกัมพูชา สัดส่วนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

                 สาเหตุสำคัญมาจาก ราคาข้าวหอมมะลิไทยสูงขึ้นมาก จากปี 51-56 ราคาส่งออกสูงขึ้นถึง 1692.8% และราคาขายปลีกในฮ่องกงสูงขึ้น 84.2% ส่งผลให้ผู้นำเข้าข้าวระดับกลางถึงใหญ่ของฮ่องกง 41 ราย เหลือเพียง 12 รายที่ยังนำเข้าจากไทย แต่เวียดนามมีราคาถูกกว่าไทยเฉลี่ย 40%  

                 และยังมีปัญหาการปลอมปน ที่ผู้นำเข้าบางรายนำข้าวราคาถูกมาผสมกับข้าวหอมมะลิไทย เพื่อขายในราคาต่ำ ทำให้ภาพลักษณ์ข้าวหอมมะลิไทยเสียหาย ผู้บริโภคขาดความเชื่อมั่น และกระทบต่อการนำเข้า






                 ส่งผลให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เร่งแก้ปัญหา และเสริมสร้างความมั่นใจให้กับผู้นำเข้า รวมถึงผู้บริโภค เพื่อดึงส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยในฮ่องกงกลับมาให้ได้โดยเร็วที่สุด ซึ่งเมื่อเร็วๆ นี้ นายสุรศักดิ์ เรียงเครือ อธิบดี ได้นำคณะผู้ส่งออกข้าวไทย ไปทวงตลาดข้าวไทยที่ฮ่องกง และได้ผลเป็นที่น่าพอใจ

     โดยผู้นำเข้าข้าวไทยรายใหญ่ในฮ่องกง ยืนยันว่า ส่วนแบ่งตลาดข้าวไทยจะกลับมาในเร็วๆ นี้ เพราะนอกจากจะเป็นผลจากการสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้นำเข้าข้าวไทย และผู้บริโภคมั่นใจว่าจะได้บริโภคข้าวหอมมะลิไทยแท้ โดยไม่มีการปลอมปนแล้ว

     อีกสาเหตุคือ ขณะนี้ ราคาข้าวไทยลดลงมาอยู่ในระดับที่แข่งขันได้แล้ว ทำให้ภัตตาคาร/ร้านอาหาร ที่เคยซื้อข้าวจากคู่แข่ง หันกลับมาใช้ข้าวไทยเช่นเดิม เพราะคุณภาพเหนือกว่ามาก ส่วนผู้บริโภคครัวเรือนยังนิยมใช้ข้าวหอมมะลิไทยเช่นเดิม ขณะเดียวกัน ปัญหาการปลอมปนเริ่มคลี่คลายลง

     ส่วนตลาดอื่นๆ ที่ไทยเสียไปแล้วก็กำลังเดินหน้าทวงคืนเช่นกัน อย่างฟิลิปปินส์ อิรัก หรือบางประเทศในแอฟริกา เป็นต้น

     เมื่อได้ส่วนแบ่งตลาดกลับมาแล้ว ก็ต้องรักษาไว้ให้ได้ หวังว่า ในอนาคตนโยบายข้าว จะไม่เป็นอุปสรรคต่อการส่งออกอีกแล้ว ไม่เช่นนั้น คงต้องแก้ปัญหาเป็นลิงแก้แห ยิ่งแก้ยิ่งวุ่นอีก!!



ฟันนี่เอส



8 พ.ค.57

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น