วันอังคารที่ 15 ตุลาคม พ.ศ. 2556

เป้าหมาย “เอเปก”

















         เมื่อวันที่ 4-5 ต.ค.ที่ผ่านมา นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปก (กลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก)  ที่เมืองบาหลี ประเทศอินโดนีเซีย

        ประเด็นสำคัญของการประชุมครั้งนี้ คือ การบรรลุเป้าหมายโบกอร์ เพื่อเปิดเสรีการค้าการลงทุนในภูมิภาค ภายในปี 2563 โดยเน้นการเจริญเติบโตอย่างเท่าเทียม ลดช่องว่างการพัฒนาของสมาชิก เช่น มาตรการภาษี มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษี (เอ็นทีเอ็ม) และการร่วมกันต่อต้านมาตรการกีดกันทางการค้าทุกรูปแบบ







         นอกจากนี้ เอเปก ยังผลักดัน การลดภาษีสินค้าสิ่งแวดล้อมของสมาชิก 54 รายการ ให้มีภาษีนำเข้าเหลือไม่เกิน 5% ภายในปี 58 เช่น หม้อไอน้ำชีวมวล กังหันก๊าซ กังหันลม เตาเผาขยะ เครื่องทำน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์ เครื่องจักรสำหรับทำอากาศหรือก๊าซให้เป็นของเหลว เครื่องจักรกลที่ใช้สำหรับการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม ชุดเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขับด้วยกำลังลม เครื่องมือตรวจวัดคุณภาพอากาศ เป็นต้น

         ความพยายามในการลดภาษีสิ่งแวดล้อมนี้ เพื่อแสดงให้โลกเห็นว่า เอเปกทั้ง 21 เขตเศรษฐกิจ มีความตั้งใจจริงในการรักษาสิ่งแวดล้อม และต้องการช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน ที่กำลังทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน

        รวมถึงยังจะทำให้การค้าขายสินค้าดังกล่าวระหว่างเอเปก สะดวกและคล่องตัวมากขึ้น
ซึ่งไทยจะได้ประโยชน์จากการนำเข้า เพราะสินค้าบางรายการไม่มีผลิตในประเทศ เนื่องจากต้องใช้เทคโนโลยีสูง อีกทั้งคนไทยจะได้ใช้สินค้าเหล่านี้ในราคาถูกลง มีผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งในด้านการจัดการน้ำเสีย การจัดการขยะ และการใช้พลังงานสะอาด







         ที่สำคัญ ยังจะทำให้สินค้าสิ่งแวดล้อมของไทยมีโอกาสส่งออกได้เพิ่มขึ้น เช่น ชิ้นส่วนอุปกรณ์สำหรับกระจกรับแสงอาทิตย์ ชิ้นส่วนอุปกรณ์เครื่องจักรไฟฟ้า อุปกรณ์ไฟฟ้า ส่วนประกอบของเครื่องจักร อุปกรณ์ที่ใช้กรองของเหลวหรือก๊าซ เป็นต้น

        ขณะเดียวกัน เอเปกยังเห็นพ้องกันที่จะสนับสนุนให้การประชุมรัฐมนตรี องค์การการค้าโลก (ดับบลิวทีโอ) ครั้งที่ 9 ในเดือนธ.ค.นี้ ที่บาหลี ประสบผลสำเร็จ หลังจากที่ไม่สามารถเจรจาเพื่อปิดการเจรจาเปิดเสรีรอบโดฮา ได้มานานนับสิบปีแล้ว!!!

        โดยเอเปกได้ออก “Bali Package” หรือปฏิญญาร่วมของเอเปก เพื่อแสดงท่าทีว่า ต้องการให้การประชุมรัฐมนตรีดับบลิวทีโอ ครั้งที่ 9 นี้ แม้จะไม่สามารถเจรจาปิดรอบโดฮาได้

          แต่สมาชิกต้องยืดหยุ่นในการเจรจา และต้องมีข้อตกลงในบางเรื่องให้ได้ก่อน เช่น การอำนวยความสะดวกทางการค้าเกษตร และประเด็นผลประโยชน์ของประเทศพัฒนาน้อยที่สุด เพื่อให้การเจรจารอบโดฮาเข้าใกล้กับเป้าหมายการเจรจาให้ได้มากที่สุด

          โลกทุกวันนี้ ไม่มีใครอยู่ได้โดยลำพัง แต่ละประเทศจึงต้องรวมกลุ่มกันเพื่อพึ่งพาอาศัยกันและกัน ดังนั้น ข้อตกลงต่างๆ ที่แต่ละกลุ่มทำร่วมกัน ต้องพยายามทำให้สำเร็จตามเป้าหมาย ไม่เช่นนั้น การรวมกลุ่มกันจะไม่มีประโยชน์อะไรเลย!!)

                                                             

                                                                          ฟันนี่เอส


                                               17 ต.ค.56

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น