วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555

เร่งกู้วิกฤติส่งออกไทย!






 



              ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่อยู่ในภาวะง่อนแง่น จากสาเหตุหลักวิกฤติหนี้สาธารณะในยูโรโซนที่รุนแรง และลุกลามขยายวงกว้างมากขึ้น แล้วยังจะมีปัญหาเศรษฐกิจสหรัฐฯชะลอตัวลง

              รวมถึงโรงงานของไทยหลายแห่ง โดยเฉพาะโรงงานผลิตรถยนต์ และชิ้นส่วน, เครื่องใช้ไฟฟ้า และเครื่องอิเล็กทรอนิกส์ ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเมื่อปลายปีที่ผ่านมา ยังไม่กลับมาเดินเครื่องผลิต และส่งออกได้เต็มกำลังเหมือนเดิม




















                จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่มูลค่าการส่งออกสินค้าไทยในช่วง 4 เดือนของปีนี้ (ม.ค.-เม.ย.) ยังติดลบหนักที่ 3.86% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน หรือมีมูลค่า 71,561.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯเท่านั้น ที่สำคัญทำให้ดุลการค้าขาดดุลสูงถึง 8,054.3 ล้านเหรียญฯ หรือ 276,009 ล้านบาท


                ส่งผลให้กระทรวงพาณิชย์นั่งไม่ติด เร่งกู้สถานการณ์ ให้กลับมาขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่ 15% จากปีก่อน หรือมีมูลค่าประมาณ 263,000 ล้านเหรียญฯ ก่อนที่จะกู่ไม่กลับมากกว่านี้

               ซึ่งกรมส่งเสริมการส่งออก กระทรวงพาณิชย์ มีแผนจะนัดหารือกับผู้ส่งออก ราววันที่ 8 มิ.ย.นี้ โดยมีนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ร่วมรับฟังปัญหา และข้อเสนอในสิ่งที่ภาคเอกชนต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือ และอำนวยความสะดวก รวมถึงร่วมกันจัดทำแผนผลักดันมูลค่าการส่งออกไทยปีนี้ให้บรรลุผลตามเป้าหมาย









               อย่างไรก็ตาม จากการได้พูดคุยกับ นางนันทวัลย์ ศกุนตนาคอธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ทำให้ทราบว่า จากปัจจัยลบต่างๆ ที่รุมเร้าเข้ามาอย่างหนักหน่วง ยอมรับว่า การผลักดันให้มูลค่าการส่งออกปีนี้ขยายตัวได้ตามเป้าหมายเป็นเรื่องเหนื่อยมาก!!


              เมื่อเทียบกับ ถ้าสถานการณ์โลกดีกว่าตอนนี้ หนี้สาธารณะของยูโรโซนไม่ลุกลามเกินคาดอย่างนี้ การขยายตัวของปีนี้อาจจะเกินเป้าหมายด้วยซ้ำ

               แต่เมื่อสถานการณ์เลวร้ายลง ทั้งกรมส่งเสริมการส่งออก และภาคเอกชน จึงต้องใช้ความพยายามอย่างหนัก ที่จะทำให้มีการเติบโตได้ตามเป้าหมาย ซึ่งยังมีความเป็นไปได้อยู่ ไม่ใช่หมดหวังอย่างที่หลายฝ่ายคาดการณ์ไว้ว่า ปีนี้จะโตได้อย่างเก่งเพียง 10% หรือต่ำกว่า

             สาเหตุที่ทำให้กรมฯมั่นใจ เพราะมูลค่าการส่งออกของ 3 กลุ่มหลักคือ ยานยนต์และชิ้นส่วน เครื่องใช้ไฟฟ้า และอิเล็กทรอนิกส์ เริ่มเป็นบวกแล้วตั้งแต่เดือนเม.ย. ทั้งที่ยังผลิตและส่งออกไม่เต็มกำลัง





               คาดว่าทั้ง 3 กลุ่มจะผลิตและส่งออกได้เต็มที่ไม่เกินไตรมาส 2 ซึ่งจะช่วยฉุดให้การขยายตัวของมูลค่าการส่งออกโดยรวมพลิกเป็นบวกได้ เพราะมีสัดส่วนสูงถึง 37-38% ของมูลค่าการส่งออกรวมขณะเดียวกัน กรมฯจะเร่งขยายสัดส่วนส่งออกไปตลาดใหม่มากขึ้น โดยเฉพาะอาเซียน จีน อินเดีย ตะวันออกกลาง ลาตินอเมริกา และแอฟริกาใต้ เพราะมีกำลังซื้อสูง และยังขยายตัว

             คงต้องลุ้นกันสุดตัวว่า งานนี้ กระทรวงพาณิชย์ จะช่วยผู้ส่งออก กู้วิกฤติส่งออกไทยได้หรือไม่ อย่างไรเสียก็ขอเอาใจช่วยอยู่ห่างๆ แล้วกัน



 


                                                                     ฟันนี่เอส


                                                      7 มิ.ย.55

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น