วันพุธที่ 21 มีนาคม พ.ศ. 2555

“หมาเฝ้าบ้าน”กวาดล้างทุจริต"











            ภาคีเครือข่ายต่อต้านคอร์รัปชั่น ซึ่งเป็นการรวมตัวกันของเอกชนเกือบ 40 องค์กร เพื่อดำเนินกิจกรรมต่อต้านการคอร์รัปชั่นทุกรูปแบบในประเทศไทย และมีนายประมนต์ สุธีวงศ์ อดีตประธานกรรมการหอการค้าไทย เป็นประธาน นั้น กำลังทำงานเชิงรุกเพื่อขจัดปัญหาคอร์รัปชั่นให้หมดสิ้นไปจากสังคมไทย

            ล่าสุด ได้จัดทำโครงการ "หมาเฝ้าบ้าน" เปิดรับสมัครประชาชนทั่วไปเข้าร่วมเป็นผู้จับผิดทุจริตในโครงการต่างๆ ของภาครัฐ ซึ่งรุ่นแรกมีอาสาสมัคร หมาเฝ้าบ้านแล้ว 130 คน

            หลังผ่านการอบรมสร้างความรู้ ความเข้าใจในการเฝ้าระวัง และจับตาการทุจริต จากมือปราบคอร์รัปชั่น อย่าง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) และสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ไปแล้ว





            อาสาสมัครทั้งหมดจะมีส่วนช่วยตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการและงบประมาณแก้ปัญหาและฟื้นฟูน้ำท่วมระยะเร่งด่วนถึงระยะยาวกว่า 4 แสนล้านบาท




            โดยหากโครงการใดส่อเค้าส่งกลิ่น หรือไม่ชอบมาพากล ก็สามารถแจ้งมายังภาคีฯ เพื่อจะได้เก็บรวบรวมข้อมูล และตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนส่งเรื่องให้ป.ป.ช. หรือสตง. หรือสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตภาครัฐ (ป.ป.ท.) ดำเนินการต่อไป

            เหตุที่เน้นจับตางบก้อนนี้เป็นพิเศษ เพราะภาคเอกชนเป็นห่วงเหลือเกินว่า จะถูกใช้อย่างไม่คุ้มค่า และมีการโกงกินกันได้มากที่สุด และง่ายที่สุด หากหน่วยงานรัฐ ซึ่งเป็นผู้ตั้งโครงการเบิกจ่ายงบประมาณนี้ จะจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ ที่ไม่สามารถตรวจสอบได้ แทนที่จะเปิดประมูลอย่างเปิดเผย และโปร่งใส หรือจงใจทำให้เกิดการรั่วไหลเข้ากระเป๋าตัวเอง และพวงพ้อง

           ขณะที่ภาคประชาชนก็เป็นห่วงเช่นกัน เพราะคนไทยทุกคนรับรู้มาโดยตลอดว่า ทุกหย่อมหญ้าในผืนแผ่นดินนี้ มีการโกงกินกันสะบั้นหั่นแหลก ที่ติดอันดับมากที่สุดหนีไม่พ้นในวงการการเมือง และวงการข้าราชการ เพราะโกงอะไรก็ไม่มันมือเท่ากับโกงกินเงินหลวง

          จากการสำรวจความคิดเห็นภาคเอกชน โดยมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ล่าสุดเมื่อเดือนม.ค.55 พบว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา มีการทุจริตในโครงการต่างๆ ของภาครัฐสูงถึง 25-30% ของงบประมาณ และงบลงทุนภาครัฐที่ 2-3 ล้านล้านบาท หรือคิดเป็นเม็ดเงินที่สูญเสียไป 1.8-2 แสนล้านบาท

           หากไม่สามารถลดปัญหานี้ได้ ภายใน 5-10 ปี รัฐจะสูญเสียเงินไปกับการคอร์รัปชั่นสูงถึง 8 แสนล้าน-1ล้านล้านบาท สามารถสร้างถนนใหม่ๆ ได้นับสิบสาย





          มาถึงตรงนี้ ทำให้ ฟันนี่เอสนึกถึงการพูดคุยกับ คุณดุสิต นนทะนาครอดีตประธานกรรมการหอการค้าไทย ผู้ล่วงลับ และผู้ริเริ่มปลุกระดมภาคเอกชน และคนไทยให้ต่อต้านทุจริตในประเทศ

          คุณดุสิต เคยพูดว่า สถานการณ์คอร์รัปชั่นไทยเลวร้ายมากขึ้น มีการจ่ายเงินใต้โต๊ะให้กับผู้มีอำนาจ เพื่อให้ได้งานหรือสิทธิประโยชน์ ถือเป็นการปล้นชาติ เพราะงบประมาณทุกบาทที่ควรนำมาพัฒนาประเทศได้ถูกโกงกิน ที่สำคัญ คนไทยกลับรับได้ ซึ่งอันตรายมาก หากปล่อยไว้ อนาคต ประเทศไทยคงล่มสลาย จำเป็นที่ทุกคนต้องต่อต้านคอร์รัปชั่น แม้เป็นเรื่องยาก แต่ต้องทำ เพื่อเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้น

           เชื่อแน่ว่า นับจากนี้ คนไทยทุกคนคงเอาใจช่วยให้การทำงานของภาคีฯประสบความสำเร็จ สามารถขจัดคอร์รัปชั่น ที่หยั่งรากฝังลึกในสังคมไทยอย่างยากจะถอนได้ ให้หมดไปในเร็ววัน



                                                                  ฟันนี่เอส



                                                                22 มี.ค.55

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น