วันอังคารที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

มือปราบมาเฟียหมู










              วันนี้ ขอปรบมือดังๆ ให้กับแนวทางของ นางวัชรี วิมุกตายน อธิบดีกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ที่ประกาศจะจัดการกับมาเฟียหมู และพ่อค้าหมูคนกลาง ที่ทำธุรกิจเอาเปรียบประชาชน และเกษตรกรมาอย่างยาวนาน และสถานการณ์รุนแรงขึ้นเรื่อยๆ เพราะไม่มีใครเข้ามาจัดระเบียบการทำธุรกิจ

             พ่อค้าคนกลางเหล่านี้จะมีทั้งที่รับซื้อหมูเป็นจากเกษตรกรผู้เลี้ยงมาชำแหละเอง และรับซื้อจากโรงชำแหละมาขายต่อให้พ่อค้าหน้าเขียง แต่ราคาที่ขายให้นั้นกลับสูงเกินกว่าที่ควรจะเป็น และมีกำไรสูงเกินควร

              ส่งผลให้ราคาเนื้อหมูหน้าเขียงสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และแทบไม่มีการลดราคาลงเลย ทั้งที่ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มลดลงแล้ว

              อย่างในปัจจุบัน ราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มลดลงเหลือกก.ละ 50 บาทเท่านั้น ซึ่งเป็นราคาขายที่เกษตรกรยังขาดทุนอยู่ จากก่อนหน้านี้เกือบกก.ละ 70 บาท โดยราคาหมูเป็นในระดับนี้ ราคาหมูเนื้อแดงควรจะไม่เกินกก.ละ 100 บาท แต่จากการสำรวจตามตลาดสดทั่วไป ยังอยู่ที่กก.ละ 125-130 บาท เท่ากับเมื่อตอนที่ราคาหมูเป็นเกือบกก.ละ 70 บาท

 ส่วนราคาในขายในห้างค้าปลีก และห้างสรรพสินค้าไม่ต้องพูดถึง แพงกว่าตลาดสดอีกหลายบาท เพราะอ้างว่าเป็นหมูคัดพิเศษ คุณภาพยอดเยี่ยม






             เจ้าของเขียงหมูหลายราย ให้คำตอบตรงกันว่า ที่ยังขายเนื้อหมูแพง เพราะพ่อค้าหมูคนกลางรายใหญ่บางราย เช่น ที่ตลาดสุชาติ ย่านรังสิต และตลาดไท ขายต่อให้ในราคาแพงนั่นเอง จึงไม่สามารถลดราคาขายให้สอดคล้องกับราคาหมูเป็นหน้าฟาร์มที่ลดลงได้ เพราะเขียงหมู ยังมีต้นทุนด้านอื่นๆ อีกที่จะต้องรับผิดชอบอีก






              ดังนั้น กรมการค้าภายใน ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลปัญหาปากท้องประชาชน จึงเร่งรวบรวมรายชื่อพ่อค้าคนกลางหมูทั่วประเทศ แล้วขึ้นบัญชีไว้ เพื่อให้รู้ว่ามีกี่ราย เป็นใครบ้าง ขายต่อไปให้เขียงหมูที่ไหนบ้าง คาดว่า ในสัปดาห์หน้าน่าจะขึ้นบัญชีได้แล้วเสร็จ

             จากนั้นจะเชิญมาหารือ เพื่อขอความร่วมมือให้ขายส่งในราคาที่เป็นธรรม เพื่อให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรมในการซื้อสินค้า และสามารถซื้อสินค้าได้ในราคาที่สอดคล้องกับต้นทุนที่ลดลง

 ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือ จะใช้กฎหมาย 2 ฉบับในการแก้ปัญหานี้ คือ พ.ร.บ.ราคาสินค้าและบริการพ.ศ.2542 ว่าด้วยการจงใจทำให้ราคาสินค้าปั่นป่วน และสูงเกินจริง มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

              และ พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้าพ.ศ.2542 ว่าด้วยการร่วมกันกำหนดราคา (ฮั้ว) มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 6 ล้านบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และในกรณีที่กระทำความผิดซ้ำต้องระวางโทษเป็นทวีคูณ

             ”ฟันนี่เอส” และผู้บริโภคทั่วประเทศ ขอเอาใจช่วยให้กรมการค้าภายใน ทำงานนี้ให้สำเร็จ และ “ดัดสันดาน” มาเฟียหมูให้ได้ เพราะไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหน ที่เราต้องถูกกลุ่มคนเหล่านี้เอาเปรียบ กอบโกยผลประโยชน์เข้ากระเป๋าอย่างมันมือ และคงตกทอดการทำธุรกิจลักษณะเช่นนี้ไปถึงลูกถึงหลาน

              งานนี้ถ้าทำสำเร็จน่าจะเป็นผลงานชิ้นโบแดง เพราะที่ผ่านๆ มา กรมการค้าภายใน มีแต่ผลงานชิ้นโบดำเท่านั้น           





                                                                        ฟันนี่เอส

                                                         23 ก.พ. 55

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น