วันอังคารที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2556

จุดเปลี่ยน “โชห่วย”



           








            ดูท่าว่า “นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” รมช.พาณิชย์ จะเอาจริงเอากับการปรับเปลี่ยนภาพลักษณ์ของร้าน “โชห่วย” หรือร้านขายของชำเล็กๆ ที่บริหารงานกันเองภายในครอบครัว และสืบทอดกิจการกันยันลูกหลาน
ให้กลายเป็นร้าน “โชว์สวย” เพื่อให้มีความเข้มแข็ง และมีศักยภาพในการแข่งขันกับร้านสะดวกซื้อ หรือห้างค้าปลีกสมัยใหม่ได้อย่างยั่งยืน ไม่ต้องล้มหายตายจากไปจำนวนมากเหมือนที่ผ่านมาอีกแล้ว

และที่สำคัญ ชื่อที่เปลี่ยนใหม่นี้ ยังเพิ่มความเป็นศิริมงคล ให้กับร้านค้า เพราะแม้ชื่อเดิมที่เป็นภาษาจีน จะไม่ได้แปลว่า “โชว์ความห่วย” แต่เมื่อฟังเสียงภาษาไทยแล้ว ตีความหมายไม่ต่างกันเลยสักนิด






ล่าสุด ได้แต่งตั้งคณะทำงาน โดยมี นายบรรยงค์ ลิ้มประยูรวงศ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นประธาน ร่วมกับตัวแทนจากสมาคมค้าส่ง-ปลีกไทย ตัวแทนจากสหกรณ์ ฯลฯ
เพื่อกำหนดรูปแบบการพัฒนา การสนับสนุนจากภาครัฐ และบริหารจัดการร้านโชห่วยเดิม ที่มีกว่า 400,000 รายทั่วประเทศในปัจจุบัน ให้มีความทันสมัย สะอาด จัดวางสินค้าให้เป็นหมวดหมู่ เลือกซื้อได้ง่าย มีระบบบัญชีที่ถูกต้อง โปร่งใส และบริหารงานแบบมืออาชีพ
            ซึ่งขณะนี้ ได้กำหนดรูปแบบ (โมเดล) ร้านโชว์สวยแล้ว 2 ขนาดตามพื้นที่ คือ พื้นที่ 5 ตารางเมตร (ตร.ม.) และพื้นที่ 10 ตร.ม. จากนั้นจะเข้าไปฝึกอบรมผู้ประกอบการให้มีการบริหารจัดการที่ดี ประสานผู้ผลิต และสหกรณ์ให้เข้ามามีส่วนช่วยในการสนับสนุนสินค้าราคาถูกให้
รวมถึงจะหารือกับสถาบันการเงินให้สนับสนุนสินเชื่อผู้ประกอบการ และจะประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแคมเปญผลักดันให้ประชาชนยอมรับร้านโชว์สวยให้มากขึ้น
พร้อมกับยืนยันว่า การสนับสนุนในการปรับปรุงร้านโชว์สวยของภาครัฐนี้ ไม่ซ้ำซ้อนกับโครงการร้านถูกใจ เพราะร้านถูกใจ ที่ขายสินค้าราคาถูกนั้น กำลังจะหมดโครงการในสิ้นเดือนมี.ค.นี้แล้ว จากนั้นยังไม่รู้ว่า โครงการจะเดินหน้าต่อหรือไม่ เพราะรัฐบาลไม่ได้ให้งบสนับสนุนอีกแล้ว แม้จะมีเสียงเรียกร้องจากประชาชนในชุมชนต่างๆ อยากให้รัฐเดินหน้าโครง การต่อไป







 “ฟันนี่เอส” เห็นด้วยกับโครงการดังกล่าวของ รมช.ณัฐวุฒิ เพราะในปัจจุบัน แทบจะไม่มีใครให้ความช่วยเหลือ ส่งเสริม หรือสนับสนุนร้านโชห่วย ให้ยืนหยัดลุกขึ้นต่อสู้กับธุรกิจค้าปลีกข้ามชาติที่เข้ามาลงทุนในไทยอย่างไม่หยุดยั้งนี้ได้เลย จนทำให้ร้านโชห่วย ที่แต่เดิมมีหลายแสนแห่งทั่วประเทศ ต้องปิดกิจการไปจำนวนมาก
แม้กระทรวงพาณิชย์มีความพยายามมาหลายปีในการออกพ.ร.บ.ธุรกิจค้าปลีกค้าส่ง เพื่อดูแลการขยายสาขาของห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่สัญชาตินอก ไม่ให้เข้ามากินรวบกิจการค้าปลีกค้าส่งในไทย แต่จนแล้วจนรอดกฎหมายดังกล่าวก็ “แท้ง” อย่างน่าเสียดายหลายครั้งหลายคราว
เพราะมีแรงล้มคว่ำกฎหมายจาก “คนไทยหัวใจนอก” เพียงไม่กี่หยิบมือ ที่ไม่ต้องการให้กฎหมายมีผลบังคับใช้ เพราะอาจทำให้แหล่ง “อู่ข้าวอู่น้ำ” ของคนเหล่านั้นต้องลดน้อยถอยลงไป
ตอนนี้ ขออย่างเดียว ให้โครงการเดินหน้าอย่างจริงจัง ไม่ใช่เป็นม้าตีนต้น พอจุดพลุติดแล้ว อีกเดี๋ยวคนลืมก็เลิกทำ ถ้าทำได้จริง รัฐบาลคงได้เสียงเชียร์จากโชห่วยอีกมากโข อีกอย่าง กระทรวงพาณิชย์ยุคนี้มีแต่เรื่องฉาว มีเรื่องดีๆ บ้างคงจะดีไม่น้อย



                                                       ฟันนี่เอส


                                                                     14 มี.ค.56

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น