วันพุธที่ 30 มกราคม พ.ศ. 2556

ธาตุแท้มหามิตร












              สัปดาห์ก่อน เขียนถึงกรณีที่สหรัฐฯ ได้เผยแพร่รายงานการละเมิดและการใช้แรงงานเด็ก และแรงงานผิดกฎหมายในการผลิตสินค้า โดยระบุว่า ไทยเป็น 1 ใน 74 ประเทศทั่วโลก ที่ใช้แรงงานเด็ก และแรงงานผิดกฎหมายในอุตสาหกรรมอาหารทะเล เครื่องนุ่งห่ม น้ำตาล และสื่อลามก
  อีกทั้งยังระบุเพิ่มอีกว่า สถานการณ์การค้ามนุษย์ในไทยยังไม่ได้รับการแก้ปัญหาให้คลี่คลายลง

             จนไทยนั่งไม่ติด รีบเชิญสหรัฐฯเดินทางเข้าไปในพื้นที่ตรวจสอบวิถีชีวิตแรงงานในอุตสาหกรรมประมง และชี้แจงการแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ในไทยไปแล้ว ซึ่งยังไม่รู้ว่า จะทำให้สหรัฐฯเข้าใจ และพอใจหรือไม่











  แต่ที่แน่ๆ ข้อมูลล่าสุดจาก “นางพิรมล เจริญเผ่า” อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ที่ได้เดินทางไปเจรจากรอบความตกลงการค้าและการลงทุนไทย-สหรัฐฯ ที่กรุงวอชิงตัน ดีซี สัปดาห์ก่อน ระบุว่า ขณะนี้ สหรัฐฯรณรงค์ให้ผู้บริโภคในประเทศ “เลิก” บริโภคอาหารทะเลแช่แข็งจากไทยแล้ว เพราะใช้แรงงานเด็กและแรงงานผิดกฎหมาย

  สัปดาห์นี้ เลยต้องขอเขียนถึง “วิบากกรรม” การส่งออกกุ้งไทยไปสหรัฐฯอีกครั้ง เพราะสหรัฐฯขยันหาเรื่อง “เล่นงาน” กุ้งนำเข้าจากไทย รวมถึงประเทศอื่นๆ แบบไม่รู้จบ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมกุ้งภายในไม่ให้ได้รับความเสียหายจากการนำเข้ากุ้งที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

  ล่าสุด เมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา สหรัฐฯยังได้ประกาศเปิดไต่สวนการอุดหนุน (CVD) กุ้งแช่แข็งจาก 7 ประเทศ ได้แก่ ไทย จีน อินเดีย มาเลเซีย อินโดนีเซีย เวียดนาม และเอกวาดอร์

  โดยอ้าง รัฐบาลของ 7 ประเทศให้การอุดหนุนผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมกุ้ง เพื่อให้มีความได้เปรียบในด้านการแข่งขัน จนอาจทำให้อุตสาหกรรมของสหรัฐฯเสียหาย

  ซึ่งหากไต่สวนแล้วพบว่า อุตสาหกรรมกุ้งสหรัฐฯเสียหาย และรัฐบาลทั้ง 7 ประเทศอุดหนุนจริง จะเรียกเก็บภาษี CVD เพื่อทำให้ราคากุ้งนำเข้าจาก 7 ประเทศสูงขึ้น และแข่งขันกับกุ้งสหรัฐฯยากขึ้นไปอีก จากปัจจุบัน ที่กุ้งจาก 7 ประเทศถูกเรียกเก็บภาษีตอบโต้การทุ่มตลาด (AD) อยู่ก่อนแล้ว โดยกุ้งไทยถูกเรียกเก็บเกือบ 1%

  แม้การใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่ไม่ใช่มาตรการทางภาษี (NBT) ที่สหรัฐฯสรรหามาสกัดการนำเข้ากุ้งไทย ไม่ผิดกฎกติกาการค้าในเวทีโลก แต่ก็ทำให้เห็น “ธาตุแท้” ของ “มหามิตร” ที่ใครๆ ยกให้เป็น “พี่เบิ้ม” ของโลกว่า ไม่เคยเสียเปรียบใคร และไม่เคยให้ใครได้ประโยชน์เหนือกว่า

  การเจรจาเปิดเสรีการค้ารอบโดฮา ภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ที่ยังค้างคามานานนับ 10 ปี และไม่สามารถปิดการเจรจาได้ ส่วนหนึ่งมาจากความไม่โอนอ่อนผ่อนปรนของมหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ












  แม้กระทั่งไทย ประเทศเล็กๆ ที่ขนาดของเศรษฐกิจเทียบกับสหรัฐฯไม่ได้เลย ยังต้องหาเรื่องกีดกันการค้าเป็นว่าเล่น แต่กลับไม่มองถึงความได้เปรียบที่ตักตวงเอาไปจากไทยเลย โดยเฉพาะจากสนธิสัญญาไมตรีและความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจไทย-สหรัฐฯ

  เข้าใจดีว่า ทุกประเทศในโลกอยู่ด้วยกันแบบพึ่งพากันและกัน ยอมโอนอ่อนผ่อนปรนให้กัน ยอมเสียสละให้กันบ้าง เพื่อให้ความสัมพันธ์ไม่บุบสลาย และที่ผ่านมา สหรัฐฯมีน้ำใจกับคนไทยอย่างเหลือล้น แต่อยากรู้จริงๆ ว่า ถ้าจบเรื่อง CVD แล้ว สหรัฐฯจะหาเรื่องอะไรมาเล่นงานไทยอีก!!       



     ฟันนี่เอส


                                                                             24 ม.ค. 56

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น