วันศุกร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2555

เวียดนามแย่งตลาดข้าวหอมมะลิ


 











            สัปดาห์ก่อน มีโอกาสติดตามคณะของกระทรวงพาณิชย์ นำโดยนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รมว.พาณิชย์ ไปขาย และประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทย ที่เขตปกครองพิเศษฮ่องกง ซึ่งได้ข้อมูลมาว่า ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา ไทยสูญเสียตลาดข้าวหอมมะลิในฮ่องกงให้กับคู่แข่งตลอดกาลอย่างเวียดนามไปเสียแล้ว

 

 โดยแต่เดิม ฮ่องกงนำเข้าข้าวหอมมะลิไทยปีละกว่า 200,000 ตัน แต่ขณะนี้ลดลงเหลือ 160,000-170,000 ตันเท่านั้น  หรือปริมาณหายไปราว 50,000 ตัน คิดเป็นมูลค่าที่หายไปประมาณ 16,500 ล้านบาท จากราคาส่งออกข้าวหอมมะลิไทยในปัจจุบันที่ตันละ 1,100 เหรียญฯ

 
 
 
 
 
 

ด้วยเหตุผลที่คนทั่วโลกทราบกันดีคือ ราคาข้าวหอมเวียดนาม ถูกกว่าข้าวหอมมะลิไทยตันละกว่า 200 เหรียญสหรัฐฯ

 

จึงเป็นแรงจูงใจอย่างดีให้อุตสาหกรรมที่ต้องใช้ข้าวในปริมาณมาก อย่างกลุ่มลูกค้าโรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร ต้องลดต้นทุนด้วยการนำเข้าข้าวหอมเวียดนามแทน แม้คุณภาพจะไม่สามารถเทียบเคียงข้าวหอมมะลิไทยได้เลย ทั้งในเรื่องของกลิ่นหอม และความนุ่ม

 

แต่สำหรับกลุ่มผู้บริโภค ยังคงเหนียวแน่นอยู่กับการบริโภคข้าวหอมมะลิไทย แม้จะมีราคาสูงขึ้น แต่ก็ยังรับได้ เพราะมีกำลังซื้อสูง และนิยมบริโภคข้าวหอมมะลิ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิใหม่

 
 
 
 
 
 
 
 

จากสถานการณ์ดังกล่าว ทำให้กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ นั่งไม่ติด เร่งเดินหน้าแย่งส่วนแบ่งตลาดข้าวในฮ่องกงกลับคืนมาให้ได้ โดยจะจัดกิจกรรมร่วมกับผู้นำเข้า ประชาสัมพันธ์ให้ทั้งกลุ่มผู้บริโภค และกลุ่มลูกค้าโรงแรม ร้านอาหาร ภัตตาคาร รับรู้ถึงคุณภาพที่ไม่มีข้าวชนิดใดเทียบเคียงได้ของข้าวหอมมะลิไทย

 

การจัดกิจกรรม In Store Promotion ในห้างสรรพสินค้า หรือการจัดมุมประชาสัมพันธ์ข้าวหอมมะลิไทย ให้ผู้บริโภคที่ยังไม่รู้จักได้รู้จัก คุ้นเคย และหันมาบริโภคให้มากขึ้น รวมถึงประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อท้องถิ่นต่างๆ ทั้งโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ นิตยสารอาหาร หรือการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ดึงดูดผู้บริโภค

 

กระทรวงพาณิชย์ มั่นใจว่า การดำเนินการดังกล่าว จะทำให้ไทยสามารถส่งออกข้าวหอมมะลิมายังตลาดฮ่องกงได้เพิ่มขึ้นอีก 60,000-70,000 ตัน

 
 
 
 
 
 
 

นอกจากนี้ การเดินทางไปฮ่องกงครั้งนี้ นายบุญทรง ยังได้เป็นประธานลงนามในบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) การซื้อข้าวหอมมะลิจากไทย ระหว่างผู้ส่งออกข้าวไทย กับผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง รวม 9 ฉบับ ปริมาณรวม 100,000 ตัน เฉลี่ยตันละ 1,100 -1,112 เหรียญสหรัฐ คิดเป็นมูลค่าประมาณ 1,100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็นเงินบาท 33,000 ล้านบาท

 

แต่เท่าที่ทราบ ไม่ใช่ตลาดข้าวหอมมะลิในฮ่องกงเพียงตลาดเดียว ที่ถูกข้าวเวียดนามช่วงชิงไป ยังมีอีกหลายประเทศทั่วโลก ทั้งสหรัฐฯ ยุโรป จีน สิงคโปร์ ส่วนข้าวขาวก็มีตลาดฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย ที่ถูกข้าวเวียดนามแย่งส่วนแบ่งไปเช่นกัน

 

เป็นหน้าที่ของกระทรวงพาณิชย์โดยตรง ที่จะเดินเกมแย่งตลาดกลับคืนมาให้ได้อย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเสียตลาดไปอย่างถาวร ไม่ใช่มัวแต่ตั้งหน้าตั้งตาขายจีทูจีอย่างเดียว ที่ทุกวันนี้ก็ยังไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า มีจริงหรือเปล่า และรัฐขาดทุนเท่าไร

 

 

 

ฟันนี่เอส

 

6 ธ.ค.55

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น