วันอังคารที่ 20 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555

ล้างภาพห่วยร.ฟ.ท.












 


ในที่สุด การรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) ก็ได้ผู้ว่าการคนใหม่แล้ว ไม่ใช่ใครที่ไหน นายประภัสร์ จงสงวน อดีตผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และอดีตผู้สมัครรับเลือกตั้งผู้ว่ากรุงเทพมหานคร ภายใต้การสนับสนุนของพรรคเพื่อไทยนั่นเอง

 

ถือเป็นคนนอกองค์กรคนแรกที่เข้ามารับตำแหน่งผู้นำสูงสุดนี้ นับตั้งแต่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ 5) ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ก่อตั้งกรมรถไฟขึ้น มาตั้งแต่เดือนต.ค.2433

 

ซึ่งหลายฝ่ายมองว่า การบริหารงานคงทำได้ยากกว่าการเอาคนในขึ้น เพราะยังไม่มีใครรู้จักฝีมือ หรือคนในอาจจะอยากลองของ หรืออาจจะยังไม่ไว้วางใจว่าจะสามารถบริหารงานได้ตลอดรอดฝั่ง จะสามารถล้างหนี้สะสมเกือบ 1 แสนล้านบาท และจะทำให้ความเป็นอยู่ของพนักงานดีขึ้นได้

 

แม้รับตำแหน่งวันแรก นายประภัสร์ ยืนยันกับพนักงานว่า จะเข้ามาล้างหนี้ 7 ชั่วโคตรให้หมดไป และจะทำให้ความเป็นอยู่ของพนักงานดีขึ้นกว่าเดิมให้ได้

 

ก็ขนาดผู้ว่าฯที่มาจากคนในเอง ที่รู้จักธรรมชาติของพนักงาน และรู้จักวัฒนธรรมองค์กรเป็นอย่างดี ยังไม่มีใครสามารถสะสางปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะมัวแต่ขัดแข้งขัดขากันเอง ดึงถ่วงกันสารพัด จนทำให้องค์กรไม่ก้าวหน้า ทันสมัย มีหนี้สินรุงรัง กลายเป็นองค์กรสุดห่วยได้อย่างไม่น่าเชื่อ!!

 
 
 
 
 
 

ทั้งๆ ที่ การมีกิจการรถไฟในประเทศไทย สมัยราชการที่ 5 ทำให้ไทยทันสมัยที่สุดในอาเซียน แต่ร.ฟ.ท.กลับบริหารงานได้อย่างน่าผิดหวังอย่างรุนแรง สภาพรถไฟเก่า โทรม สกปรก ห้องน้ำไม่ถูกสุขลักษณะ ของเสียที่ผู้โดยสารถ่ายออกมาก็ตกลงบนรางรถไฟ ทำให้ราง และพื้นที่ตลอดเส้นทาง เป็นแหล่งเพาะเชื้อโรค แม้พนักงานบนรถไฟจะให้บริการดีขนาดไหน ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่อยากใช้บริการจริงๆ

 

  สำหรับสิ่งที่ผู้ว่าฯคนใหม่จะดำเนินการลำดับแรกคือ หารายได้เลี้ยงตัวเอง ด้วยการนำทรัพย์สิน โดยเฉพาะที่ดินร.ฟ.ท.มาทำให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ให้เร็วที่สุด รวมถึงตรวจสอบการใช้ประโยชน์ของที่ดินให้ได้ค่าตอบแทนที่คุ้มค่าด้วย

 
 
 
 
 
 

โดยเฉพาะการพัฒนาที่ดินใจกลางกรุงเทพฯ 497 ไร่ย่านมักกะสัน หรือโครงการ "มักกะสัน คอมเพล็กซ์" มูลค่ากว่า 300,000 ล้านบาท ที่ผ่านไป 8 ปีแล้วยังเป็นเพียงแค่แนวคิดที่ยังไม่เริ่มเป็นรูปเป็นร่าง

 

ถือเป็นสิ่งที่น่าทำมากที่สุด เพราะที่ดินบนชุมทางรถไฟ ทั่วประเทศ ไม่นับรวมพื้นที่โดยรอบมีมากกว่า 235,000 ไร่ ในจำนวนนี้เป็นที่ดินที่นำมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ได้กว่า 36,000 ไร่
















แต่ร.ฟ.ท.กลับไม่ทำอะไรให้เกิดประโยชน์ ปล่อยให้เป็นที่รกร้าง ถูกประชาชนบุกรุกเข้าไปจับจองเป็นที่อยู่อาศัย มิหนำซ้ำ ยังปล่อยให้คนอื่นเช่าในราคาต่ำกว่าความเป็นจริง แล้วนำไปสร้างประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โกยเงินเข้ากระเป๋าเพลินๆ ไม่รู้กี่ปีมาแล้ว

 

คงต้องเอาใจช่วยผู้ว่าฯคนใหม่ ให้ทำงานสำเร็จลุล่วง ในฐานะที่ “ฟันนี่เอส” เป็นคนไทย และเคยใช้บริการรถไฟไทย ไม่อยากเห็น ร.ฟ.ท. ยังคงรักษาสภาพเดิมเอาไว้เหมือนเมื่อแรกเริ่มก่อตั้ง ไม่ว่าจะเป็นการบริหารงาน การให้บริการ หรือกระทั่งสภาพรถไฟ

 

 

  ฟันนี่เอส

 

 

22.ค. 55

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น