วันอังคารที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

ขึ้นราคาแท็กซี่มิเตอร์












         ประชาชนคนไทยยังดีใจกับของขวัญปีใหม่ของรัฐบาลนี้ได้ไม่เท่าไร ก็ต้องรู้สึกขัดใจ และแอบเซ็งเล็กๆ เพราะจู่ๆ กระทรวงคมนาคมกลับประกาศปรับขึ้นค่าแท็กซี่มิเตอร์ กระชากความรู้สึกแฟนคลับรัฐบาลซะอย่างนั้น
   
         โดยสาเหตุที่พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รมว.คมนาคม อนุมัติให้ปรับขึ้นค่าแท็กซี่มิเตอร์ เป็นเพราะเห็นงามตามเหตุผลที่พี่น้องแท็กซี่มิเตอร์ยกมากล่าวอ้างว่า ไม่ได้ขึ้นมานานแล้วตั้งแต่ปี 51 ขณะที่ค่าครองชีพเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
   
         ที่สำคัญ แก๊สหุงต้มยังปรับขึ้นราคาซ้ำเติมอีก ส่งผลให้ผู้ขับขี่แท็กซี่แทบอยู่ไม่รอด จึงจำเป็นต้องปรับขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน



   


          สำหรับอัตราใหม่ กำหนดให้ระยะทาง 1 กิโลเมตร (กม.) แรกเร่ิมต้นที่ 35 บาทเท่าเดิม แต่กม.ที่ 1-10 คิดกม.ละ 5.50 บาท, กม.ที่ 10-20 กม.ละ 6.50 บาท, กม.ที่2 0-40 กม.ละ 7.50บาท, กม.ที่ 40-60 กม.ละ 8 บาท, กม.ที่ 60-80 กม.ละ 9 บาท และตั้งแต่กม.ที่ 80 คิด กม.ละ 10.50 บาท กรณีที่รถไม่สามารถเคลื่อนที่ หรือเดินรถต่อไปได้เกินกว่า 6 กม.ต่อชั่วโมง หรือรถติด คิดนาทีละ 2 บาท
   
         ส่วนกรณีการจ้างผ่านศูนย์บริการสื่อสารของผู้รับจ้าง ให้เรียกเก็บค่าจ้างเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก 20 บาท และกรณีการจ้างจากท่าอากาศยานดอนเมือง หรือท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ณ จุดที่ได้จัดไว้เป็นการเฉพาะ ให้เรียกเก็บค่าจ้างเพิ่มขึ้นจากที่แสดงไว้ในมาตรค่าโดยสารอีก 50 บาท
   





        โดยค่าแท็กซี่มิเตอร์ใหม่ คาดจะเริ่มเก็บจริงราวสิ้นเดือน ธ.ค.นี้ เฉพาะรถแท็กซี่ที่ผ่านการตรวจรับรองมาตรฐานมิเตอร์เก็บเงินแล้วเท่านั้น ซึ่งจะมีสติกเกอร์ติดที่ข้างรถว่าเก็บค่าโดยสารอัตราใหม่ ส่วนแท็กซี่ที่ยังไม่ได้นำมิเตอร์ไปตรวจสอบ จำเป็นต้องตรวจสอบ และผ่านการรับรองก่อนจึงจะเก็บค่าโดยสารอัตราใหม่ได้
   
        อย่างไรก็ตาม มีการตั้งข้อสังเกตว่า การขึ้นค่ามิเตอร์นี้เหมาะสมหรือไม่ เพราะเป็นการปรับขึ้นขณะที่ประชาชนกระเป๋าฉีก จากค่าครองชีพที่สูงขึ้นมาก ขณะเดียวกัน แม้ราคาแก๊สปรับขึ้น แต่ผู้ขับขี่รถสาธารณะ ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลในการเติมแก๊สราคาถูกกว่ารถบ้าน จึงไม่น่าขึ้นราคาเพื่อซ้ำเติมประชาชน
   
       “ฟันนี่เอสเคยถามแท็กซี่หลายคัน ส่วนใหญ่พูดตรงกันว่า ถ้าขยันๆ จะมีรายได้วันละเกือบพันบาท หรือบางรายเกินพันบาทด้วยซ้ำ ซึ่งหักค่าเช่ารถ และค่าแก๊สแล้ว คิดเล่นๆ ถ้ามีรายได้วันละ 800-1,000 บาท ใน 1 เดือนจะมีรายได้ถึง 24,000-30,000 บาท มากกว่ามนุษย์เงินเดือนด้วยซ้ำ    
   
       แต่ก็เอาเถอะ! เมื่อให้ปรับขึ้นไปแล้ว ผู้โดยสารอย่างเราๆ จะเรียกร้องหาคุณภาพในการให้บริการจากผู้ขับขี่ได้หรือไม่ เพราะทุกวันนี้ พฤติกรรมแท็กซี่สุดทนจริงๆ โดยเฉพาะการปฏิเสธผู้โดยสาร บางคันเลือกรับเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ไม่เห็นหัวคนไทย บางรายขับรถอ้อม เพื่อให้มิเตอร์ขึ้นเยอะๆ
   





        ส่วนบางรายไม่กดมิเตอร์แต่จะต่อรองราคากับผู้โดยสารแบบโขกราคาเกินจริง โดยเฉพาะในจุดที่เป็นสถานีขนส่ง ยิ่งในช่วงเทศกาล ประชาชนกลับบ้านแล้วหอบหิ้วของพะรุงพะรัง จะเดินไปหาแท็กซี่ภายนอกสถานีก็ไม่ไหว จึงจำใจขึ้น ทั้งที่รู้ว่าถูกเอาเปรียบอย่างน่าเกลียดที่สุด
   
         ถ้าขึ้นราคาไปแล้ว ผู้โดยสารก็อยากเรียกร้องบริการที่ดีขึ้นบ้าง กระทรวงคมนาคม จช่วยดูแลได้หรือไม่ กฎหมายที่มีอยู่ จะเพิ่มโทษแท็กซี่ที่มีพฤติกรรมเลวๆ ได้หรือไม่ เพื่อให้หลาบจำและเลิกทำพฤติกรรมทุเรศๆ เสียที
   
       ช่วยดูแลผู้โดยสารกันบ้างเถอะ! ได้โปรด!! อย่าเอาใจแต่ผู้ขับขี่แท็กซี่เลย
                       



                                                                                    ฟันนี่เอส

                                                                                  18 ธ.ค.57

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น