วันอังคารที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2556

เงินเฟ้อ : ภาพลวงตาหรือแค่ความรู้สึก


          








            วันก่อน กระทรวงพาณิชย์ โดยนางวัชรี วิมุกตายน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ได้แถลงข่าวอัตราเงินเฟ้อไทยเดือนส.ค.56 ซึ่งเป็นเดือนล่าสุดว่า เท่ากับ 105.41 สูงขึ้น 1.59% เทียบกับเดือนส.ค.55 นับเป็นการขยายตัวต่ำสุดในรอบ 46 เดือน นับตั้งแต่เดือนต.ค.52 ที่ขยายตัว 0.4% และเมื่อเทียบกับเดือนก.ค.56 ลดลง 0.01% ส่วนเฉลี่ย 8 เดือนปี 56 สูงขึ้น 2.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 55

            หลายคนอาจสงสัยว่า เงินเฟ้อคืออะไร มีความสำคัญอย่างไรในระบบเศรษฐกิจ ฟันนี่เอสขอใช้ความรู้อันน้อยนิด อธิบายสั้นๆ ว่า เงินเฟ้อ หมายถึง ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการในระบบเศรษฐกิจสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะเวลาหนึ่ง มีผลให้ค่าของเงินในกระเป๋าลดลง โดยมูลค่าเงินเท่าเดิมแต่กลับซื้อสินค้าได้น้อยชิ้นลง

               ยกตัวอย่าง เช่น  เคยซื้อไข่ไก่ 1 ถาด 30 ฟองในราคา 60 บาท หรือเฉลี่ยฟองละ 2 บาท แต่ปัจจุบัน ราคาเพิ่มสูงขึ้นเป็นถาดละ 120 บาท หรือเฉลี่ยฟองละ 4 บาท ถ้าจะใช้เงินเท่าเดิม 60 บาท จะซื้อได้แค่ 15 ฟอง ถ้าต้องการซื้อทั้ง 30 ฟอง ต้องใช้เงินเพิ่มขึ้นอีก 60 บาท เป็น 120 บาท แบบนี้เรียกว่า เกิดภาวะเงินเฟ้อขึ้นแล้ว เพราะเงินจำนวนเท่าเดิมในกระเป๋าเรามีค่าลดลง ซื้อสินค้าได้น้อยชิ้นลง

             ถือว่า เงินเฟ้อ เป็นดัชนีชี้วัดค่าครองชีพของประชาชนว่าดีขึ้น หรือแย่ลง เงินในกระเป๋าเรามีค่ามากขึ้น หรือลดลงอย่างไร!!

                และยังเป็นเครื่องมือที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ใช้ดูแลเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ เพื่อให้ประชาชนคาดการณ์เงินเฟ้อได้อย่างเหมาะสม สามารถวางแผนการใช้จ่าย ทั้งการบริโภคการผลิต และการลงทุนได้อย่างราบรื่น ซึ่งจะช่วยให้เศรษฐกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืน

            เงินเฟ้อเดือนส.ค.ที่เพิ่มขึ้น 1.59% เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.55 หมายความว่า ราคาสินค้าและบริการในเดือนส.ค.ปีนี้สูงกว่าเดือนส.ค.ปีก่อน 1.59% แต่อัตราดังกล่าวกลับลดลงมากที่สุดในรอบเกือบ 4 ปี ส่วนเฉลี่ย 8 เดือนปี 56 สูงขึ้น 2.47% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 55 หมายความว่า ราคาสินค้าและบริการ 8 เดือนปีนี้แพงกว่า 8 เดือนปีก่อน 2.47%













               เมื่อพิจารณาตามหลักวิชาการแล้ว จะเห็นว่า ราคาสินค้าและบริการขณะนี้ยังแพงกว่าปีก่อน อย่างที่ประชาชนกำลังรู้สึก และเผชิญหน้าอยู่ แม้กระทรวงพาณิชย์ พยายามชี้แจงว่า ราคาสินค้าและบริการปีนี้แทบไม่ต่างจากปีก่อนเลย

             และแม้จะเห็นการลดลงอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่กลางปี 56 เพราะความต้องการบริโภคประชาชนลดลง จากมาตรการกระตุ้นการบริโภคของรัฐบาลสิ้นสุดลงแล้ว โดยเฉพาะโครงการรถยนต์คันแรก

               แต่ ฟันนี่เอสมองว่า เงินเฟ้อในเดือนก.ย.นี้ อาจขยับขึ้นเล็กน้อยจากเดือนส.ค.56 เพราะราคาก๊าซหุงต้มปรับขึ้นอีกกก.ละ 50 สตางค์ ค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ เพิ่มขึ้นอีก 7 สตางค์/หน่วย และค่าทางด่วนขึ้นอีก 5 บาท

               แม้กระทรวงพาณิชย์ ระบุว่า ทั้ง 3 ปัจจัยจะทำให้เงินเฟ้อถึงสิ้นปีเพิ่มขึ้นเพียง 0.1% แต่ในด้านจิตวิทยา ราคาสินค้า โดยเฉพาะอาหาร ซึ่งมีน้ำหนักมากในการคำนวณเงินเฟ้อ ปรับขึ้นไปรอราคาก๊าซที่ปรับขึ้นแล้ว และยิ่งสหรัฐฯถล่มซีเรีย ก็จะยิ่งทำให้ราคาน้ำมันตลาดโลกเพิ่มขึ้น และจะกดดันเงินเฟ้อให้เพิ่มขึ้นได้อีก

                 คงต้องจับตากันอย่างไม่กระพริบว่า เงินเฟ้อปีนี้ จะต่ำกว่าเป้าหมาย หรือโตตามเป้าหมายของกระทรวงพาณิชย์ที่ 2.80-3.40% หรือไม่

                                                                                     
                                                                                      ฟันนี่เอส


                                                       5 ก.ย. 56

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น