วันพุธที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2556

รอลุ้นWLปีนี้!



                                                        





    
            หลังจากเฝ้าลุ้นกันมาทั้งปี ในที่สุด สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (The Office of the United States Trade Representative : USTR) ก็ได้ประกาศสถานะของไทยด้านทรัพย์สินทางปัญญาประจำปี 55 ตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษแล้วเมื่อปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา

           เป็นไปตามคาด USTR ได้คงสถานะให้ไทยอยู่ในบัญชีถูกจับตามองเป็นพิเศษ (Priorty Watch List : PWL) ต่ออีกปี ส่งผลให้ไทยอยู่ในบัญชีนี้ติดต่อกันเป็นปีที่ 6 นับตั้งแต่ปี 50 เป็นต้นมา







            แต่ในปีนี้ถือว่าพิเศษตรงที่ USTR ได้ให้เงื่อนไขพิเศษกับไทยที่มากกว่าการทบทวนสถานะนอกรอบ (Out-of-Cycle Review : OCR)โดยหากไทยสามารถผลักดันร่างแก้ไขพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ว่าด้วยการแอบถ่ายในโรงภาพยนตร์ และร่างแก้ไขพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ว่าด้วยการป้องกันการละเมิดบนอินเตอร์เน็ต ให้มีผลบังคับใช้ หรือเพียงแค่ผ่านการพิจารณาของสภาฯวาระแรกได้

      สหรัฐฯจะลดสถานะของไทยมาอยู่บัญชีที่ถูกจับตามอง (Watch List: WL) ทันที

     โดยสาเหตุที่ USTR ให้เงื่อนไขพิเศษกับไทยมากกว่าประเทศอื่นๆ เพราะเห็นความจริงจังในการปราบปรามการละเมิด โดยเฉพาะการจัดตั้งศูนย์ป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และการบังคับใช้กฎหมายฟอกเงิน ซึ่งระบุการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นความผิดขั้นพื้นฐาน









       นอกจากนี้ USTR  ยังได้รับแจ้งจากเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯว่า ได้รับความร่วมมือที่ดีจากหน่วยงานด้านการป้องกันและปราบปรามการละเมิดของไทย รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมศุลกากรด้วย

     สำหรับเงื่อนไขพิเศษดังกล่าวนี้ ถือว่าดีกว่าการขอทบทวนสถานะนอกรอบ เพราะไทยไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามแผนปฏิบัติการขอทบทวนนอกรอบ ที่ให้จัดส่งให้สหรัฐฯแล้วทั้งหมดก่อน สหรัฐฯจึงจะปรับไทยมาอยู่สถานะดีขึ้น เพียงแค่ไทยผลักดันให้กฎหมายผ่านพิจารณาวาระแรกก็จะถูกลดสถานะแล้ว

        กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เชื่อว่า ร่างแก้ไขกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ จะผ่านการพิจารณาของสภาฯวาระแรกในช่วงการเปิดสภาฯเดือนส.ค.-ต.ค.นี้ เพราะเป็นร่างแก้ไขกฎหมายที่ประโยชน์อย่างมาก ทั้งกับเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา และกับประเทศไทยเอง








     เนื่องจากจะกำหนดให้การบันทึกภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์โดยมิชอบเป็นความผิดทางอาญา ผู้กระทำผิดจะมีโทษรุนแรง ทั้งจำและปรับ ส่วนการป้องกันการละเมิดบนเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งปัจจุบันมีการละเมิดมากขึ้น เช่น การโหลดตำราวิชาการ ภาพยนตร์ เพลง ฯลฯ นั้น ความผิดสูงสุด จะถึงขั้นปิดเว็บไซต์ และดำเนินคดีกับเจ้าของเว็บไซต์ด้วย     

      เมื่อกำหนดบทลงโทษที่รุนแรงเช่นนี้ น่าจะทำให้ผู้ที่คิดจะกระทำผิดเกรงกลัว และไม่คิดที่จะทำผิดอีก เจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา ก็สามารถขายสินค้าได้อย่างสบายใจ ไม่ถูกโจรขโมยไปขาย จนต้องสูญเสียรายได้มหาศาลเหมือนในปัจจุบัน     

       ขณะเดียวกัน ประเทศไทยจะมีการละเมิดลดลง และมีผลให้ ประเทศต่างๆ โดยเฉพาะประเทศพัฒนาแล้ว ไว้วางใจที่จะทำการค้าขายกับไทยมากขึ้น และไม่ใช้ข้ออ้างด้านทรัพย์สินทางปัญญามากีดกันการค้าไทยอีก    

       ต้องรอลุ้นกันอีกครั้งว่า ไทยจะผลักดันกฎหมายตามที่สหรัฐฯต้องการได้หรือไม่ และไทยจะกลับมาอยู่บัญชี WL ได้เมื่อไร?
                          


                                                                ฟันนี่เอส
                                                     16 พ.ค.56

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น