วันอังคารที่ 5 กรกฎาคม พ.ศ. 2554

เงื่อนงำสาวไส้ดีแทค








 
  

            การตรวจสอบโครงสร้างผู้ถือหุ้นบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ว่าเข้าข่ายเป็นบริษัทต่างด้าว และมีคนไทยถือหุ้นแทน (นอมินี) หรือไม่ ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์น่าจบลงแล้วตั้งแต่วันที่นาย ยรรยง พวงราช ปลัดกระทรวงพาณิชย์ แถลงข่าวผลสรุปของคณะทำงานตรวจสอบโครงการผู้ถือหุ้นดีแทค

            โดยผลสรุประบุ ไม่สามารถฟันธงได้ว่า ดีแทคเป็นต่างด้าวหรือไม่ เพียงแค่ชี้มูลว่า เข้าข่าย เพราะบริษัทที่ถือหุ้นในดีแทคไขว้กันไปมาทุกลำดับชั้นเป็นต่างด้าว จึงทำให้ดีแทคกลายเป็นต่างด้าวด้วย และจะส่งไม้ต่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบเชิงลึกต่อไป

            แต่ปรากฏว่า ข้อสรุปดังกล่าวไม่ถูกใจนาย อลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์อย่างแรง และสั่งให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ระงับการส่งข้อสรุปไปให้ตำรวจทันที พร้อมมอบหมายให้นาย สัญญา สถิรบุตร ประธานที่ปรึกษารมช.พาณิชย์ ตรวจสอบข้อสรุปดังกล่าวซ้ำอีกครั้ง เสร็จแล้วให้เสนอตนฟันธงว่าเป็นต่างด้าวหรือไม่






 
            รมช.อลงกรณ์ อ้างว่า ไม่ใช่ไม่เชื่อใจการทำงานของคณะทำงานฯ แต่เพราะต้องการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ผู้ถือกฎหมายการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542 ได้ใช้อำนาจที่แท้จริง ฟันธงว่าดีแทคผิดหรือไม่

            ไม่ใช่ตีกรรเชียงไปเรื่อยเปื่อย ไม่กล้าฟังธง ทั้งที่มีข้อมูลชัดเจน!!

            และยังยืนยันว่า ไม่ได้เชือดไก่ให้ลิงดู แต่เป็นการส่งสัญญาไปยังทุกบริษัทในไทย ที่มีคนต่างชาติถือหุ้น ว่าจะต้องทำให้ถูกกฎหมายไทย อย่าทำธุรกิจเอาเปรียบคนไทย ที่ไม่พร้อมในการแข่งขันทั้งด้านเงินทุน และเทคโนโลยี

             ถ้ามองตามเนื้อผ้า คงต้องปรบมือดังๆ ให้ รมช.อลงกรณ์ ที่กล้าจะเอาคนผิดมาลงโทษ แต่ในความเป็นจริง ต้องถามกลับว่า สมควรหรือไม่ ที่ฝ่ายการเมืองจะเข้ามายุ่งเกี่ยว หรือมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ โดยยัดเยียดนายสัญญา คนของตัวเองเข้ามาตรวจสอบซ้ำ

ทั้งๆ ที่คณะทำงานฯได้ทำเสร็จไปแล้ว และคณะทำงานฯไม่ได้มีเพียงเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า แต่ยังมีจากอีก 4 หน่วยงานที่เชื่อถือได้ ทั้งธนาคารแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และกรมสรรพากร

ทำให้คิดไปอีกว่า แท้จริงแล้วมีอะไรอยู่เบื้องหลัง และรมช.อลงกรณ์ มีอำนาจตามกฎหมายหรือไม่ที่จะฟันธงว่าดีแทคผิด เพราะคนมีอำนาจฟันธงแท้จริงคือศาลเท่านั้น

และหากอ้างว่า จะทำให้กฎหมายศักดิ์สิทธิ์ ถามหน่อยว่า ทำไมเพิ่งคิดทำเอาวันที่กำลังจะเป็นฝ่ายค้าน ก่อนหน้านี้มัวทำอะไรอยู่ ทั้งที่รู้อยู่แก่ใจว่า บริษัทใดในไทยเป็นต่างด้าว และมีนอมินี โดยเฉพาะธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง, โลจิสติกส์

 รบกวนตอบดังๆ ให้คนไทยฟังกันชัดๆ หน่อยเถอะน่า

                                               ฟันนี่เอส


                                                7 ก.ค.54

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น