หลังจากเฝ้าลุ้นกันมาทั้งปี
ในที่สุด สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (The Office of the United States Trade
Representative : USTR) ก็ได้ประกาศสถานะของไทยด้านทรัพย์สินทางปัญญาประจำปี
55 ตามกฎหมายการค้าสหรัฐฯ มาตรา 301 พิเศษแล้วเมื่อปลายเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา
เป็นไปตามคาด USTR ได้คงสถานะให้ไทยอยู่ในบัญชีถูกจับตามองเป็นพิเศษ
(Priorty Watch List : PWL) ต่ออีกปี ส่งผลให้ไทยอยู่ในบัญชีนี้ติดต่อกันเป็นปีที่ 6
นับตั้งแต่ปี 50 เป็นต้นมา
แต่ในปีนี้ถือว่าพิเศษตรงที่ USTR ได้ให้เงื่อนไขพิเศษกับไทยที่มากกว่าการทบทวนสถานะนอกรอบ (Out-of-Cycle Review : OCR)โดยหากไทยสามารถผลักดันร่างแก้ไขพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ว่าด้วยการแอบถ่ายในโรงภาพยนตร์
และร่างแก้ไขพ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ว่าด้วยการป้องกันการละเมิดบนอินเตอร์เน็ต
ให้มีผลบังคับใช้ หรือเพียงแค่ผ่านการพิจารณาของสภาฯวาระแรกได้
สหรัฐฯจะลดสถานะของไทยมาอยู่บัญชีที่ถูกจับตามอง (Watch
List: WL) ทันที
โดยสาเหตุที่ USTR ให้เงื่อนไขพิเศษกับไทยมากกว่าประเทศอื่นๆ
เพราะเห็นความจริงจังในการปราบปรามการละเมิด
โดยเฉพาะการจัดตั้งศูนย์ป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา
และการบังคับใช้กฎหมายฟอกเงิน ซึ่งระบุการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาเป็นความผิดขั้นพื้นฐาน
นอกจากนี้ USTR ยังได้รับแจ้งจากเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯว่า
ได้รับความร่วมมือที่ดีจากหน่วยงานด้านการป้องกันและปราบปรามการละเมิดของไทย
รวมถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมศุลกากรด้วย
สำหรับเงื่อนไขพิเศษดังกล่าวนี้ ถือว่าดีกว่าการขอทบทวนสถานะนอกรอบ
เพราะไทยไม่จำเป็นต้องดำเนินการตามแผนปฏิบัติการขอทบทวนนอกรอบ
ที่ให้จัดส่งให้สหรัฐฯแล้วทั้งหมดก่อน สหรัฐฯจึงจะปรับไทยมาอยู่สถานะดีขึ้น
เพียงแค่ไทยผลักดันให้กฎหมายผ่านพิจารณาวาระแรกก็จะถูกลดสถานะแล้ว
กรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ เชื่อว่า
ร่างแก้ไขกฎหมายทั้ง 2 ฉบับ
จะผ่านการพิจารณาของสภาฯวาระแรกในช่วงการเปิดสภาฯเดือนส.ค.-ต.ค.นี้
เพราะเป็นร่างแก้ไขกฎหมายที่ประโยชน์อย่างมาก ทั้งกับเจ้าของทรัพย์สินทางปัญญา
และกับประเทศไทยเอง