ในปีนี้ หลายฝ่าย เช่น
สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ คาดการณ์ว่า
ไทยจะเสียแชมป์ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกให้กับอินเดีย โดยคาดไทยจะส่งออกได้เพียง 6.5-7 ล้านตัน แต่อินเดียจะได้มากกว่า 7 ล้านตัน
เหตุผลสุดคลาสสิกของผู้ส่งออกคือ
ข้าวไทยราคาสูงกว่าคู่แข่งอื่นถึงตันละกว่า 100 เหรียญสหรัฐฯ
จากนโยบายรับจำนำข้าวเปลือก ที่รับจำนำสูงถึงตันละ 15,000-20,000 บาท
ขณะเดียวกัน ปีนี้อินเดียต้องเร่งโละสต๊อกข้าวเก่าในราคาต่ำติดดิน
เพื่อเคลียร์พื้นที่ไว้เก็บข้าวใหม่ ส่วนเวียดนาม ก็ขายราคาต่ำ
เพราะไม่มีสถานที่เก็บ เมื่อเก็บเกี่ยวแล้ว จำเป็นต้องขายข้าวสดทันที
โดยราคาส่งออกขณะนี้ของ International Trader ข้าว 5% ไทยตันละ 615 เหรียญฯ เวียดนาม 430
เหรียญฯ อินเดีย 420 เหรียญฯ ข้าว 10% ไทย 612 เหรียญฯ เวียดนาม 425 เหรียญฯ ข้าว 25% ไทย 584 เหรียญฯ เวียดนาม 390 เหรียญฯ อินเดีย 375 เหรียญฯ ข้าวนึ่ง ไทย 624 เหรียญฯ อินเดีย 510 เหรียญฯ
ส่งผลให้ผู้ซื้อเมินข้าวไทย
หันนำเข้าจาก 2 ประเทศแทน แต่กระทรวงพาณิชย์ กลับคิดต่าง
และมั่นใจว่า ปีนี้ไทยจะรักษาแชมป์ผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกไว้ได้
ด้วยปริมาณการส่งออกที่ไม่ต่ำกว่า 9 ล้านตัน
แต่ราคาจะสูงกว่าราคาที่ขายได้ในปีก่อนมาก
เหตุผลส่วนหนึ่งมากจาก อินเดียมีปัญหาส่งมอบให้ลูกค้าไม่ทัน
และเวียดนามขายข้าวออกเกือบหมดแล้ว ลูกค้าจึงหันมานำเข้าจากไทยมากขึ้น
แต่สาเหตุหลักคือ
กระทรวงพาณิชย์ได้เจรจาขายข้าวแบบมีรัฐต่อรัฐ (จีทูจี)
กับหลายประเทศปีนี้รวมแล้วมากกว่า 3 ล้านตัน อีกทั้งยังได้จับมือผู้ผลิตข้าวในอาเซียน
ทั้งเวียดนาม กัมพูชา พม่า และลาว เพื่อทำการตลาดข้าวร่วมกันแล้ว
ซึ่งจะผลักดันให้ราคาข้าวไทย และอาเซียนเพิ่มขึ้นได้ จากการไม่ขายตัดราคากันเอง
โดยคาดราคาข้าวหอมมะลิไทยจะเพิ่มขึ้น 5% ข้าวขาวเพิ่มได้อีก 15%
นอกจากนี้
ไทยจะร่วมมือกับอาเซียนสำรองข้าวเพื่อความมั่นคงทางอาหาร
ให้กับกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (จีซีซี) 6 ประเทศ ซึ่งจะทำให้ไทย และอาเซียน
มีตลาดส่งออกข้าวที่แน่นอนในแต่ละปี
ขณะเดียวกัน
กระทรวงพาณิชย์จะเชิญผู้ซื้อข้าวทั่วโลก เข้าร่วมงาน “มหกรรมข้าวไทยครั้งที่ 3” วันที่ 25-27 พ.ค.55 ณ ท่าข้าวกำนันทรง จ.นครสวรรค์
เพื่อให้เห็นถึงศักยภาพไทยในฐานะผู้ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกยาวนานถึง 30 ปี
และความเป็นผู้นำในการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานข้าว
จนสามารถยกระดับข้าวไทยให้เป็นข้าวดีที่สุดในโลก และขายได้ในราคาแพง
ยกระดับชีวิตเกษตรกร และผู้ที่เกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมข้าวทั้งหมด
งานนี้ ถือได้ว่า
เป็นเวทีที่ชาวนา โรงสี พ่อค้า และผู้ส่งออกข้าวไทยจะมารวมตัวกันเพื่อแสดง
และจำหน่ายข้าว และผลิตภัณฑ์ เพื่อประกาศความเป็นศูนย์กลางข้าวโลก เพราะไทยมีพื้นที่เพาะปลูกข้าวที่ดี
มีข้าวพันธุ์ดี หลากหลายที่สุด ชาวนามีภูมิปัญญาในการเพาะปลูกข้าว
มีเครื่องจักรกลทันสมัย มีโรงสีดีที่สุด ทำให้ข้าวไทยยืนหยัดเป็นแชมป์ข้าวโลก
หวังว่างานนี้
จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ซื้อต่างประเทศ หันมาเพิ่มปริมาณการซื้อข้าวไทย
และทำให้ไทยรักษาแชมป์ส่งออกข้าวอันดับ 1 ของโลกไว้ได้เหมือนเดิมตามประสงค์ของกระทรวงพาณิชย์
ฟันนี่เอส
24
พ.ค.55
ญาญ่ามางานนี้มั๊ยคะ
ตอบลบ