เห็นข่าวนี้แล้วถึงกับอึ้ง! อินเดียขอทบทวนความตกลงเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ที่ทำกับประเทศต่างๆ
รวมถึงกับไทย หลังพบว่า ขาดดุลประเทศต่างๆ อย่างต่อเนื่อง
และยังมีการนำเข้าทองคำเพิ่มขึ้นมาก
ภายใต้เอฟทีเอไทย-อินเดีย
กำหนดให้อินเดียต้องลดภาษีนำเข้าทองคำจากไทยเหลือเพียง 1.01% จากอัตราปกติที่ประเทศอื่นๆ เสียกันที่ 15%
ประกอบกับ ทองคำรูปพรรณของไทยมีคุณภาพดี มีเนื้อทองคำบริสุทธิ์สูงถึง 96.5%
และชาวอินเดีย นิยมซื้อทองคำมากกว่าฝากเงินในธนาคาร
ส่งผลให้นำเข้าทองคำจากไทยเพิ่มขึ้นมากอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 55
นำเข้าเครื่องประดับทองคำมีมูลค่าสูงถึง 123.95 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และทองรูปพรรณ
52.73 ล้านเหรียญฯ
รัฐบาลอินเดียถึงกับต้องหามาตรการป้องกัน
ที่ไม่เป็นธรรมกับไทย โดยระงับการนำเข้าทองคำจากไทยตั้งแต่เดือนก.พ.56 อ้างว่าหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าของไทยไม่ชัดเจน
และอินเดียมีข้อสงสัยเกี่ยวกับการสวมสิทธิ์ถิ่นกำเนิดจากไทย
เพราะการที่สินค้าไทยเสียภาษีนำเข้าในอัตราต่ำมาก ทำให้อินเดียอ้างได้ว่า
อาจเป็นช่องทางให้ผู้ส่งออกทองคำจากประเทศอื่นอ้างการส่งออกจากไทย เพื่อให้ได้ใช้สิทธิประโยชน์เสียภาษีนำเข้าในอัตราเดียวกับไทยได้
ซึ่งตามปกติทองคำ ที่จะขอรับสิทธิประโยชน์ได้ต้องมีการผลิต หรือสร้างมูลค่าเพิ่มในไทย
20% ของมูลค่าสินค้า
แต่อินเดียได้กักสินค้าไทยไว้ที่ด่าน และเรียกเก็บภาษีนำเข้า 15% โดยไม่ได้หารือไทยเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งที่ภายใต้เอฟทีเอ กำหนดให้ต้องหารือกันเพื่อแก้ปัญหา
นอกจากนี้ อินเดียวยังเล่นนอกกติกา
ปรับขึ้นภาษีนำเข้าทองคำจากไทยหน้าตาเฉย ซึ่งที่ผ่านมา ได้ปรับเพิ่มขึ้นหลายครั้งโดยไม่แจ้งให้ทราบจนปัจจุบัน
เรียกเก็บภาษีนำเข้าเครื่องประดับทองคำจากไทย 15% และสินค้าทองคำ เช่น ทองคำแท่ง เหรียญทอง ทองที่ยังไม่ได้ขึ้นรูป 10%
ผลจากการเล่นนอกกติกา ทำให้ในปี 56 ไทยส่งออกเครื่องประดับทองคำไปอินเดียมีมูลค่าเพียง
9.37 ล้านเหรียญฯ และ ทองรูปพรรณ 1.48 ล้านเหรียญฯเท่านั้น ซึ่งลดลงจากปี 55 ถึง
90%
แค่นี้ยังไม่พอ! อินเดีย
พยายามจะขอทบทวนความตกลงกับไทยซ้ำอีก โดยต้องการเพิ่มอำนาจของหน่วยข่าวกรองด้านสรรพากรของอินเดีย สังกัดกระทรวงการคลัง ซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการลักลอบสินค้าผิดกฎหมาย เช่น
ยาเสพติด ทองคำ เพชร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ธนบัตรปลอม
ให้สามารถระงับการค้าได้โดยอัตโนมัติ
หากตรวจพบว่าการใช้ความตกลงผิดวัตถุประสงค์ จากการสวมสิทธิ์ถิ่นกำเนิดสินค้า โดยเฉพาะสินค้าเครื่องประดับทองคำ
ที่ส่งผลให้อินเดียขาดดุลการค้ามโหฬาร
อย่างไรก็ตาม นายสมเกียรติ ตรีรัตนพันธ์
รองอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ ได้แนะนำผู้ผลิตผู้ส่งออกทองของไทยว่า
ควรจะปฏิบัติตามกฎว่าด้วยแหล่งกำเนิดสินค้าอย่างเคร่งครัด ถ้าคิดจะทำการค้ากับอินเดียต่อไป
เพื่อไม่ให้ใช้เป็นข้องอ้าง ทบทวนเอฟทีเอระหว่างกัน เพราะมีการสวมสิทธิ์แหล่งกำเนิดสินค้าทองคำของไทย
ค้าขายกับแขกก็เป็นอย่างนี้ล่ะ ไร้กฎกติกา
ตอนกำลังเจรจาเอฟทีเอกัน ก็หลอกล่อไทยสารพัดจนเกือบจะเสียท่า
พอกำหนดกติกาค้าขายกันได้ ก็ยังแหกกฎได้อีก!!
ฟันนี่เอส
13 ก.พ. 57
13 ก.พ. 57
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น