ดูท่าว่า
ศึกสาวไส้เรื่องข้าว ระหว่างรัฐบาลนี้ และรัฐบาลก่อนจะไม่จบง่ายๆ เสียแล้ว!!
เพราะหลังจากที่พรรคประชาธิปัตย์เริ่มต้นขบวนการ
“ล้ม” โครงการรับจำนำข้าว
เรื่อยมาถึงเปิดศึกซักฟอกรัฐบาล “น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร”
นายกรัฐมนตรีว่า มีการทุจริตในโครงการรับจำนำ และการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล
รวมถึงยังมีการขายข้าวรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) แบบลวงโลกแล้ว
ล่าสุด
ก็มีข่าวแฉกลับรัฐบาลสมัยพรรคประชาธิปัตย์บ้าง
โดยอ้างข้อมูลที่คณะอนุกรรมการไต่สวน ของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
(ป.ป.ช.) ที่มีนายกล้าณรงค์ จันทิก เป็นประธาน
ได้กล่าวหา
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อดีตนายกรัฐมนตรี กับพวกรวม 4 คนคือ นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี
อดีตรองนายกรัฐมนตรี และประธานคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) นางพรทิวา
นาคาศัย อดีตรมว.พาณิชย์ และนายมนัส สร้อยพลอย อดีตอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ
กระทำความผิดฐานทุจริตต่อหน้าที่
หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ เกี่ยวกับการอนุมัติให้ความเห็นชอบขายข้าวสารในสต๊อกรัฐบาลในราคาต่ำกว่าราคาตลาด
และเอื้อประโยชน์ให้บริษัทผู้ส่งออกบางราย โดยไม่มีเปิดประมูลเป็นการทั่วไป
อันเป็นการกีดกันบริษัทผู้ส่งออกอื่นไม่ให้เสนอราคาแข่งขันอย่างเป็นธรรม จนเกิดความเสียหายแก่ทางราชการ
โดยข่าวระบุว่า
ป.ป.ช.ได้ตรวจสอบพบว่า การขายข้าวของรัฐบาลก่อน แทบไม่ต่างจากรัฐบาลนี้เลย เพราะขายด้วยวิธีพิเศษ
คือ เปิดให้ผู้ส่งออกที่มีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศมาเสนอซื้อข้าวในสต๊อกรัฐ แม้จะอ้างว่า
ต่อรองราคาเพื่อให้ได้ราคาดีที่สุด แต่ไม่ได้เปิดเผยเช่นกันว่า
ขายให้เอกชนราคาเท่าไร และรัฐขาดทุนเท่าไร
รวมปริมาณที่ขายออกในครั้งนั้น
มากถึง 2.73 ล้านตัน แต่กลับส่งออกจริงแค่ล้านกว่าตัน
ไม่ได้ส่งออกถึง 922,195 ตัน มิหนำซ้ำ ผู้ส่งออกบางราย ที่ส่งออกข้าวไม่ครบ
หรือไม่ได้ส่งออก ยังอาจแสดงเอกสารการส่งออกเท็จ มาขอคืนหลักประกันสัญญาจากองค์การคลังสินค้า
(อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) อีก
การดำเนินการเช่นนี้
ป.ป.ช.เห็นว่าเป็นคดีความผิดทางอาญาที่มีความซับซ้อน และมีผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจ
หรือการคลังของประเทศ จึงตั้งคณะอนุกรรมการสอบสวนเพื่อเอาผิดกับผู้กระทำความผิด
เมื่อเห็นข่าวนี้แล้ว
ทำให้เห็นถึงกำพืดนักการเมืองไทยว่า ไม่มีใครดีไปกว่ากัน และยังเห็นสัจธรรมว่า “สมบัติผลัดกันชม” จริงๆ
เพราะนักการเมืองบ้านเรา
แทบจะหาคนจริงใจ และเสียสละทำงานเพื่อประเทศชาติไม่ได้เลย ส่วนใหญ่มี
“วาระซ่อนเร้น” ด้วยกันทั้งนั้น ถ้าไม่กินตามน้ำ ก็ทวนน้ำ ถ้าไม่กินเพื่อตัวเอง
ก็เพื่อพวกพ้อง ตำแหน่งต่างๆ
ที่ผลัดเปลี่ยนตัวบุคคลไปเรื่อยอ้างเพื่อความเหมาะสมในการทำงานนั้น แท้จริงก็เพื่อผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้ามาหาช่องทางกอบโกยผลประโยชน์
อยากวิงวอน
ป.ป.ช. หน่วยงานตรวจสอบทุกหน่วยงาน รวมถึงคนไทยทุกคนให้ช่วยกันสอดส่องพฤติกรรม ถ้าพบผิดก็ต้องเอาผิดให้ถึงที่สุด
อย่าปล่อยให้คนเหล่านี้เสวยสุขอยู่บนความทุกข์ และความอับอายของคนไทยทั้งประเทศอีกเลย
ฟันนี่เอส
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น