ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ค.นี้เป็นต้นไป พี่น้องชาวนาไทยจะได้มีหลักประกันผลผลิตข้าวเสียหายจากภัยธรรมชาติต่างๆ กันแล้ว
เพราะธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธก.ส.) ทุกสาขาทั่วประเทศ จะเริ่มขายกรมธรรม์ประกันภัยข้าวนาปี โดยจะให้ความคุ้มครองผู้ปลูกข้าว กรณีผลผลิตข้าวเสียหายจากภัยธรรมชาติต่างๆ ได้แก่ อุทกภัย ฝนทิ้งช่วง ลมพายุ อากาศหนาว ลูกเห็บ และอัคคีภัย
แต่ไม่รวมความเสียหายจากโรคระบาด และศัตรูพืช เพราะปัจจัยเหล่านี้อยู่ในวิสัยที่ควบคุมได้ โดยความคุ้มครองจะแบ่งเป็น 2 ระยะคือ ช่วง 60 วันแรกของการเพาะปลูก หากผลผลิตเสียหายจากเหตุข้างต้น เกษตรกรจะได้รับค่าสินไหมทดแทน 606 บาทต่อไร่ และตั้งแต่วันที่ 61 ของการเพาะปลูกเป็นต้นไป จะได้รับค่าสินไหมทดแทน 1,400 บาทต่อไร่ ขณะที่จ่ายค่าเบี้ยประกันภัยจิ๊บๆ เพียง 129 บาทต่อไร่เท่านั้น
ถือว่าคุ้มเกินคุ้ม เมื่อเทียบกับเบี้ยประกันภัยที่เกษตรกรต้องจ่ายจริงเพียง 60 บาทต่อไร่สำหรับรายที่ไม่ได้เป็นลูกค้าธ.ก.ส. เพราะอีก 69 บาทต่อไร่รัฐบาลจะจ่ายสมทบให้ ส่วนรายที่เป็นลูกค้าธ.ก.ส.จ่ายจริงน้อยกว่าแค่ 50 บาทต่อไร่ อีก 10 บาทต่อไร่ ธ.ก.ส.จะสมทบให้
หากพี่น้องชาวนารายใดที่ต้องการจะซื้อความเสี่ยงผลผลิตของตนเองเสียหาย ทำได้ง่ายนิดเดียว เพียงแค่นำเอกสารสิทธิแสดงที่ตั้งแปลงเพาะปลูกไปเป็นหลักฐานในการซื้อกรมธรรม์ พร้อมแจ้งจำนวนพื้นที่เพาะปลูกทั้งหมด
ซึ่งเมื่อเกิดความเสียหายขึ้นที่แปลงเพาะปลูกข้าว บริษัทประกันภัยจะจ่ายค่าสินไหมให้โดยผ่านธ.ก.ส. ล่าสุดมีบริษัทประกันภัยเข้าร่วมโครงการแล้ว 8 ราย ได้แก่ ทิพยประกันภัย, วิริยะประกันภัย, อาคเนย์ประกันภัย, เมืองไทยประกันภัย, กรุงเทพประกันภัย, ประกันภัยไทยวิวัฒน์, ไทยเศรษฐกิจประกันภัย และนวกิจประกันภัย
เท่านี้ก็ทำให้เกษตรกรมีหลักประกันทางอาชีพแล้วว่า หากผลผลิตเสียหายจนเก็บขายไม่ได้ ก็ยังพอมีเงินให้นำไปทำทุนลงกล้าเพาะปลูกใหม่ได้อีก จากเมื่อก่อนที่ไม่มีหลักประกันใดๆ เลย เมื่อผลผลิตเสียหายจากภัยธรรมชาติ ก็ได้ที่แต่นอนนั่งน้ำตาตกอย่างเดียว
งานนี้ต้องยกเครดิตให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (สำนักงาน คปภ.) ที่มีนางจันทรา บูรณฤกษ์ เป็นเลขาธิการ ที่ซุ่มศึกษาความเป็นไปได้ของการทำประกันภัยพืชผลทางการเกษตร เมื่อเกือบ 4 ปีมาแล้ว และคลอดกรมธรรม์ประกันภัยข้าวโพดเป็นอย่างแรก ซึ่งได้รับความนิยมจากเกษตรกรมากขึ้นเป็นลำดับ และล่าสุดมาถึงประกันภัยข้าวนาปี ในอนาคตก็จะมีมันสำปะหลังอีก
ส่วนรัฐบาลชุดนี้ เพียงแค่เข้ามาช่วยผลักดันให้การศึกษาความเป็นไปได้สำเร็จลุล่วงโดยเร็ว และสามารถขายกรมธรรม์ได้จริงในช่วงก่อนการลงคะแนนเลือกตั้งก็เท่านั้น!!
ฟันนี่เอส
30 มิ.ย.54
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น