ทุกครั้งที่มีข่าวว่า กระทรวงพาณิชย์
มีความพยายามแก้ไขปรับปรุงพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542 จะเห็นภาพคนต่างชาติที่ทำธุรกิจในไทยตบเท้าเข้าพบคนของรัฐบาลไทยในทุกระดับ
เพื่อล็อบบี้ไม่ให้แก้ไขได้สำเร็จ
เพราะเกรงว่า จะปิดกั้นการลงทุนมากกว่าการเปิดกว้าง
จนทำให้ไทยไม่สามารถแก้ไขกฎหมายนี้ได้เสียที ทั้งที่เห็นจุดบกพร่องในหลายประเด็น
ล่าสุด
กลายเป็นเรื่องร้อนขึ้นมาอีกครั้ง เนื่องจากมี “มือดี” นำร่างแก้ไขกฎหมายดังกล่าว
(ร่างไหนไม่รู้) มาเผยแพร่บนโลกไซเบอร์ ทั้งๆ ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ที่ดูแลกฎหมายฉบับนี้
ยังแก้ไขไม่เสร็จ อยู่ในขั้นตอนการศึกษาและรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง
ทั้งภาครัฐ และภาคธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม
การแก้ไขต้องเกิดขึ้นแน่นอน ตามนโยบายรัฐบาล ที่มอบหมายให้แต่ละหน่วยงานแก้ไขกฎหมายในความดูแลให้ทันสมัย
รวมถึงเพื่อลดปัญหาและอุปสรรคด้านการค้า การลงทุน
และเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ประกอบธุรกิจทั้งภายในและภายนอกประเทศ
ดังนั้น ในการแก้ไข กรมฯ ได้คำนึงถึงเป้าหมายหลักคือ เพื่อส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ
เพื่อลดขั้นตอนการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในไทย เพื่ออำนวยความสะดวกทางการค้าและการลงทุน
และไม่เกิดผลกระทบต่อผู้ประกอบธุรกิจรายเดิม หรือผู้ที่ลงทุนในไทยอยู่ก่อนแล้ว
ที่ผ่านมา
กรมฯได้รับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนที่แล้ว 3 ครั้ง ส่วนใหญ่เห็นตรงกันที่จะแก้ไขคำนิยามของ
“คนต่างด้าว” เพราะเป็นจุดอ่อนสำคัญที่ทำให้เกิด “ตัวแทนอำพราง” ในลักษณะ “นอมินี”
หรือการมีคนไทยถือหุ้นแทนคนต่างด้าว
เพื่อให้คนต่างด้าวสามารถทำธุรกิจต้องห้ามในไทย หรือทำธุรกิจที่คนต่างด้าวต้องขออนุญาตดำเนินธุรกิจในไทย
โดยไม่ต้องขออนุญาต
เสมือนเป็นการปล้นชาติ
ปล้นสมบัติของคนไทยไปเข้ากระเป๋าคนต่างชาติ โดยมีคนไทยสมรู้ร่วมคิดด้วย!!
โดยจะกำหนดคำนิยามใหม่
ให้ครอบคลุมถึงการมีอำนาจบริหารจัดการ และสิทธิในการออกเสียงของคนต่างด้าวด้วย จากเดิมที่กำหนดสัดส่วนการถือหุ้นไม่เกิน
49.99% เท่านั้น
เนื่องจากปัจจุบัน บริษัทที่อ้างว่ามีสัญชาติไทยจำนวนมาก
ทำธุรกิจต้องห้ามสำหรับคนต่างด้าว หรือธุรกิจที่คนต่างด้าวต้องขออนุญาต และในทางปฏิบัติ
ผู้ถือหุ้นต่างชาติ ที่ถือหุ้นน้อยกว่าคนไทย กลับมีอำนาจบริหารจัดการในบริษัท
และสิทธิในการออกเสียง มากกว่าคนไทย
นอกจากนี้
ยังเห็นตรงกันที่จะปรับลดคุณสมบัติของคนต่างด้าวที่เป็นอุปสรรคให้เหมาะสม การทบทวนประเภทธุรกิจตามบัญชีท้ายพ.ร.บ.ดังกล่าว
เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน การแก้ไขยกเว้นทุนขั้นต่ำให้สอดคล้องกับสนธิสัญญาและพันธกรณี
การแก้ไขอัตราโทษสำหรับนอมินีให้เหมาะสม เป็นต้น
กรมฯ
คาดว่า จะได้ข้อสรุปภายในเดือนธ.ค.นี้ ก่อนนำเสนอขอความเห็นชอบจากพล.อ.ฉัตรชัย
สาริกัลป์ยะ รมว.พาณิชย์ หากเห็นชอบจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ
เพื่อเข้าสู่กระบวนการตราเป็นกฎหมายให้มีผลบังคับใช้ต่อไป
คนต่างด้าว ถ้ามีเจตนาบริสุทธิ์
ทำธุรกิจอย่างตรงไปตรงมา ประเทศไทยก็เต็มใจเปิดรั แต่ถ้าใครคิดจะตักตวงผลประโยชน์คนไทยแล้วล่ะก็
เลิกหวังได้เลย!!
ฟันนี่เอส
20 พ.ย.57
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น