วันก่อน มีโอกาสคุยกับ “รศ.ดร.เสาวณีย์ ไทยรุ่งโรจน์”
อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ถึงข้อเสนอแนะที่ฝากไปถึงคณะรักษาความสงบแห่งชาติ
(คสช.) เพื่อให้นำไปบรรจุในโรดแม็ปเศรษฐกิจของประเทศ
เพราะขณะนี้เป็นช่วงเวลาที่ดี ที่จะ “รื้อ” หรือ
“ปฏิรูป” ประเทศในด้านต่างๆ ครั้งใหญ่ เพราะ คสช. มีอำนาจเบ็ดเสร็จเด็ดขาด
และมีความเฉียบขาดที่จะดำเนินการได้
โดยภายหลังจากการเพิ่ม Demand Side ด้วยการอัดฉีดเม็ดเงิน
หรือหนี้ค้างจ่ายให้กับชาวนาในโครงการรับจำนำข้าวที่ยังไม่ได้เงินตั้งแต่เดือนธ.ค.56
ซึ่งถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้นที่เห็นผลเร็วที่สุด ทำให้เศรษฐกิจฐานรากฟื้นตัวขึ้น
และช่วยพยุงให้เศรษฐกิจภาพรวมของประเทศดีขึ้นได้แล้ว
ในระยะยาว ต้องปรับโครงสร้างการผลิตของประเทศ เพื่อเพิ่ม Supply Side เช่น Exit Plan กำหนดว่าอุตสาหกรรมใดเหมาะ
หรือไม่เหมาะกับประเทศ ถ้าไม่เหมาะสม ต้องวางแผนลดและเลิกการผลิตภายในระยะเวลากี่ปี
เพื่อไม่ให้ผู้ประกอบการ “ช็อค” ถ้าหักดิบยกเลิกในทันที
และต้องส่งเสริมให้ภาคเอกชนทำอุตสาหกรรมที่เหมาะสมแทน
เช่น อุตสาหกรรมการเกษตร อุตสาหกรรมพลังงานทดแทน อุตสาหกรรมอาหาร ฯลฯ จากนั้นต้องทุ่มเททรัพยากรทั้งหมดทั้งมวลมาที่อุตสาหกรรมที่เหมาะสม
เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตให้ดีขึ้น
อย่างเช่น ถ้าเห็นว่าอุตสาหกรรมอาหารเหมาะสมกับประเทศ ต้องจัดสรรทรัพยากรมาสู่ภาคนี้
สร้างระบบชลประทาน พัฒนาเทคโนโลยีการเกษตร ลดต้นทุนการผลิต เพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิต
และการแข่งขันให้เหนือกว่าคู่แข่ง
ส่วนอุตสาหกรรมที่ไม่เหมาะ เช่น
อุตสาหกรรมที่ใช้แรงงานจำนวนมาก อย่างสิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม ควรส่งเสริมให้ภาคเอกชนไปลงทุนประเทศเพื่อนบ้านแทน
เพราะค่าจ้างแรงงานถูกกว่าไทยมาก
และยังได้รับสิทธิประโยชน์ส่งออกไปประเทศพัฒนาแล้ว ที่จะช่วยเพิ่มแต้มต่อให้กับสินค้าได้อีก
นอกจากนี้
ต้องปฏิรูปภาคการเกษตร โดยจัดทำโซนนิ่งพื้นที่เพาะปลูกพืช เช่น พื้นที่ดอน ปลูกข้าวไม่ได้ผลดี ควรสนับสนุนให้ปลูกอ้อย หรือมันสำปะหลัง
ที่มีราคาดีกว่าแทน
รวมถึงส่งเสริมให้ปลูกพืช 5 ชนิดหลัก ทั้ง ข้าว
มันสำปะหลัง ยางพารา อ้อย และข้าวโพด เพื่อความยั่งยืนด้านอาหารและพลังงานทดแทน และช่วยยกระดับรายได้
สร้างความเข้มแข็งให้เกษตรกร
การปฏิรูปสิ่งเหล่านี้ ต้องกำหนดเป็น
“วาระแห่งชาติ” หรือออกเป็นกฎหมายให้มีผลบังคับใช้ในระยะยาว ไม่ใช่หมดยุคคสช.แล้ว
รัฐบาลใหม่ไม่ดำเนินการตาม เพราะถ้าเป็นเช่นนั้น การยึดอำนาจครั้งนี้ จะไม่ก่อประโยชน์ใดๆ
เลย
อาจารย์ยังฝากทิ้งท้ายว่า ขอให้
คสช.พิจารณาแต่ละโครงการที่เสนอมาเพื่อบรรจุในโรดแม็ปอย่างละเอียด รอบคอบที่สุด
เพราะอาจมีการ “สอดไส้” หรือ “วางยา” ได้
ฟันนี่เอส
5 มิ.ย.57
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น