รัฐบาลชุดนี้มีเรื่องเซอร์ไพรส์ประชาชนได้ทุกสัปดาห์จริงๆ สัปดาห์ก่อนก็ “รถยนต์คันแรก” ที่ยังเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์อยู่อย่างต่อเนื่อง มาสัปดาห์นี้ คณะรัฐมนตรี ก็อนุมัติโครงการ “บ้านหลังแรก” อีกแล้ว
ต้องถือว่า เป็นความพยายามทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ และเป็นประโยชน์กับผู้ที่มีรายได้น้อย และยังไม่เคยมีที่อยู่อาศัยของตนเอง ให้มีเป็นของตนเองได้เสียที
เพราะจะสามารถนำค่าใช้จ่ายในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่เป็นอาคารพร้อมที่ดิน หรือห้องชุดในอาคาร เพื่อเป็นที่อยู่อาศัย มาหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงถึง 10% ของราคาอสังหาริมทรัพย์ เท่ากับเป็นการประหยัดเงินที่จะต้องจ่ายซื้อบ้านถึง 10%
และยังเป็นการกระตุ้นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ให้กลับมาคึกคักได้อีกครั้ง โดยเฉพาะบ้านเดี่ยว ทาวน์เฮาส์ ทาวน์โฮม อาคารชุด ที่มีราคาไม่เกิน 5 ล้านบาท ทั้งในใจกลางเมือง และนอกเมือง รวมถึงกระตุ้นสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ให้มีการปล่อยกู้ซื้อที่อยู่อาศัยเพิ่มขึ้นด้วย
โดยประชาชนที่ซื้อที่อยู่อาศัย จะได้รับการลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสูงสุดไม่เกิน 500,000 บาท หากซื้อบ้านไม่เกิน 5 ล้านบาท แต่หากซื้อบ้านราคา 4 ล้านบาท ก็จะได้รับการลดหย่อนภาษี 400,000 บาท หรือถ้าบ้านราคา 1 ล้านบาท ก็จะได้รับลดหย่อน 100,000 บาท
ในการลดหย่อนภาษีนั้น จะได้รับเท่าๆ กันในแต่ละปี เป็นเวลา 5 ปีภาษีต่อเนื่อง แต่รวมกันแล้วไม่เกิน 500,000 บาท โดยต้องจดทะเบียนโอนกรรมสิทธิ์ให้แล้วเสร็จตั้งแต่วันที่ 21 ก.ย.54-31ธ.ค.55 ซึ่งหากโอนกรรมสิทธิ์ภายในปี 54 จะได้รับการลดหย่อนในรอบการยื่นแบบภาษีปี 55 แต่ถ้าโอนภายในสิ้นปี 55 จะได้รับการลดหย่อนในรอบการยื่นภาษีปี 56
แต่มีเงื่อนไขว่า ผู้ซื้อต้องมีชื่อเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์ที่ซื้อเป็นเวลาติดต่อกันไม่น้อยกว่า 5 ปีนับแต่วันที่จดทะเบียนโอน
ที่สำคัญ ผู้ที่มีสิทธิจะได้รับการลดหย่อนภาษีนั้น จะต้องเป็นผู้มีเงินได้ที่เสียภาษีอยู่ก่อนแล้ว หากมีเงินได้แต่ยังไม่ถึงเกณฑ์ที่ต้องเสียภาษี ก็ “อด” ไป
โครงการนี้ ได้ใจคนที่อยากมีบ้านหลังแรกเป็นของตนเองแบบเต็มๆ แม้ทำให้รัฐต้องสูญเสียรายได้ประมาณ 1,700 ล้านบาท เพราะเหมือนมีส่วนลดจากรัฐบาล แม้ไม่ได้คืนทันทีเป็นเงินก้อนภายใน 1 ปีก็ตาม
แต่ถ้าจะให้ดีมากกว่านี้อีกหลายเท่า รัฐบาลน่าจะหามาตรการลดดอกเบี้ยเงินกู้ที่อยู่อาศัยให้ประชาชนด้วยจะเป็นพระคุณอย่างยิ่ง
เพราะปัจจุบัน ดอกเบี้ยเงินกู้ปรับขึ้นมาอย่างต่อเนื่องเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 7-8% แล้ว จากนโยบายขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของแบงก์ชาติ เพื่อสกัดเงินเฟ้อ จนตอนนี้ ชาวบ้านจะกระอักเลือดตาย เพราะหาได้เท่าไรก็ต้องใช้หนี้ธนาคารหมด
อีกอย่างอย่ามองข้ามการเก็งกำไรในภาคอสังหาริมทรัพย์ ที่อาจเกิดขึ้นจากโครงการนี้ด้วย!!
ฟันนี่เอส
22 ก.ย. 54
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น